account_circle
“แพรคิดว่าปัญหาส่วนใหญ่ของเด็กไทยคือการศึกษา เพราะหลายเรื่องนั้นเกิดจากความไม่รู้ของเด็ก เช่น ทำไมประเทศไทยจึงเกิดปัญหาเด็กผู้หญิงท้องก่อนวัยอันควรจำนวนมากขึ้นเรื่อยๆ ก็เพราะค่านิยมและความเข้าใจผิดๆ ไม่รู้ว่าควรป้องกันอย่างไร วางแผนครอบครัวอย่างไร จะหวังพึ่งพ่อแม่อย่างเดียวไม่ได้ เพราะพ่อแม่ในหลายครอบครัวทำงานหนัก ไม่มีเวลามาดูแลลูก ฉะนั้นการศึกษาจึงเป็นสิ่งที่สำคัญ เหมือนเราให้โอกาสเขาได้เปิดโลกกว้างขึ้น รู้ว่าอะไรควรทำ ไม่ควรทำ และความรู้ก็เป็นสิ่งที่จะติดตัวเขาไปตลอดชีวิต อีกเรื่องที่อยากเน้นย้ำคือการให้ความช่วยเหลือเด็กด้อยโอกาสและพิการค่ะ ซึ่งรวมถึงการให้กำลังใจด้วย อย่างแพรเคยไปมอบเงินให้มูลนิธิแถวนนทบุรี ตอนจะกลับ คุณครูเข็นรถน้องคนหนึ่งที่พิการผ่านมาพอดี ซึ่งพอน้องเห็นว่ามีคนมาเยี่ยม เขาดูดีใจมาก โบกมือทักทายใหญ่เลย ทำให้แพรรู้สึกว่าการช่วยเหลือกันไม่ใช่แค่เรื่องบริจาคเงินหรือสิ่งของเท่านั้น บางครั้งการยิ้มหรือทักทายสั้นๆก็ถือเป็นการแสดงการยอมรับในตัวตนของเขา ทำให้เขามีกำลังใจและมีความสุข แพรจึงขอเป็นหนึ่งในกระบอกเสียงของโปรเจ็คท์ดีๆนี้ให้ทุกคนได้รับรู้ว่า…เราสามารถเป็นส่วนหนึ่งในการช่วยเหลือเด็กๆได้ค่ะ”
“จุ๋ยเคยมีโอกาสไปเยี่ยมเด็กที่โดนทำร้ายหรือใช้ความรุนแรงแล้วสะเทือนใจมากค่ะ เพราะเด็กๆส่วนใหญ่โดนทำร้ายจากคนในครอบครัว พ่อเลี้ยงบ้าง ญาติพี่น้องบ้าง บางคนแม่ติดเหล้าแล้วเมาอาละวาด ซึ่งส่งผลรุนแรงต่อสภาพจิตใจของเด็ก นึกดูสิคะ ขนาดเราดูข่าวยังรู้สึกแย่เลย จุ๋ยว่าการใช้ความรุนแรงกับเด็กทำให้เขาซึมซับความรุนแรงและมองโลกในแง่ร้าย ไม่เห็นสิ่งดีงามรอบตัวในชีวิตเขา และอาจส่งผลให้เขาไปก่อคดีอื่นๆตามมาได้ ดังนั้นเด็กที่โดนทำร้ายหรือใช้ความรุนแรงจะต้องได้รับการเลี้ยงดูเป็นพิเศษ เพื่อคอยดูแลและปรับสภาพจิตใจ การให้ความช่วยเหลือเด็กๆกลุ่มนี้ก็เป็นเหมือนการหาที่พักพิงให้เขา ช่วยให้เขามีกำลังใจ เพื่อให้เขาเห็นเป็นตัวอย่างว่ายังมีคนที่พร้อมจะเสียสละและมีน้ำใจอยู่ในสังคม เมื่อเขาได้รับ เขาก็จะเรียนรู้ที่จะรู้จักให้กลับคืนบ้าง ปกติจุ๋ยชอบไปเยี่ยมและให้กำลังใจเด็กๆตามมูลนิธิต่างๆอยู่แล้ว การได้มาร่วมแคมเปญกับแพรวและหลุยส์ วิตตอง ในครั้งนี้ จึงเป็นเหมือนการได้กระจายต่อสิ่งดีๆไปยังเด็กที่ต้องการความช่วยเหลือ แม้เป็นแค่ส่วนเล็กๆก็ดีใจแล้วค่ะ”
พร้อมกันนี้นิตยสารแพรว เจ้าของโครงการแพรวแชริตี้ ได้ประกาศนำทัพด้วยการบริจาคเงิน 300,000 บาทให้กับยูนิเซฟประจำประเทศไทย แต่แน่นอนว่าโปรเจ็คท์ดีๆแบบนี้ เราย่อมไม่หวงไว้ทำบุญฝ่ายเดียว คุณๆสามารถมาร่วมด้วยช่วยกันผ่านการซื้อ Silver Lockit #MAKEAPROMISE สร้อยข้อมือเปี่ยมความหมาย ซึ่งออกแบบมาเป็นรูปกุญแจที่ได้แรงบันดาลใจมาจากล็อกพิเศษที่ออกแบบโดยจอร์จ วิตตอง ในปี ค.ศ. 1890 โดยแจ้งความจำนงที่ร้านหลุยส์ วิตตอง ประเทศไทย ทุกสาขา
เยาวชนคืออนาคตของชาติ แต่ยังมีเด็กอีกมากที่กำลังเผชิญปัญหา ทั้งจากความยากไร้ สุขภาพ โรคระบาด ความไม่สงบ ภัยธรรมชาติ ขาดแคลนการศึกษา และอื่นๆอีกมากมาย ที่ล้วนส่งผลต่อความปลอดภัยและความเป็นอยู่ คุณเองก็สามารถร่วมเป็นส่วนหนึ่งของการช่วยเหลือเด็กๆได้ ขอเพียงตระหนักรู้ถึงประเด็นปัญหาและไม่นิ่งดูดาย
เพราะแม้เราจะเป็นเพียงส่วนเล็กๆในสังคม แต่สามารถสร้างแรงกระเพื่อมที่ยิ่งใหญ่ได้หากร่วมมือกัน