ฟ้าหลังฝนของ นักแสดงสาว มารี เบิร์นเนอร์ จากนางเอกหน้าใสสู่นางร้ายแห่งปี กับความสำเร็จในฐานะนักแสดงฝีมือดีจากบทบาท “กันยา”
หากพูดถึงละครที่เป็นที่พูดถึงมากที่สุดในนาทีนี้คงเป็นเรื่องไหนไปไม่ได้นอกจาก เมีย 2018 ของช่อง one31 เพราะนอกจากทุบสถิติเรตติ้งของช่องตัวเองแล้ว ยังสร้างประวัติศาสตร์ด้วยการคว้าเรตติ้งสูงสุดในกรุงเทพมหานคร และเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมาสามารถล้ม 2 ยักษ์ใหญ่ได้สำเร็จ
โดยหนึ่งในนักแสดงนำที่ถูกพูดถึงมากก็คือ นักแสดงสาว มารี เบิร์นเนอร์ เจ้าของบท “กันยา” นางร้ายของเรื่องนี้ที่กลับมาแจ้งเกิดอย่างสวยงามอีกครั้ง ภายหลังจากเซย์กู๊ดบายจากบทนางเอกและต้นสังกัดเดิม ซึ่งเธอบอกกับเราว่าเธอรู้สึกดีใจมากที่ในวันนี้มีคนพูดถึงฝีมือการแสดงของเธอมากกว่าแต่ก่อน
โดยเมื่อเร็วๆ นี้ในงาน ROBINSON LINGERIE (โรบินสัน ลองเจอเรย์) แฟชั่นโชว์บราแห่งปี ที่จัดขึ้น ณ ชั้น 1 เซ็นเตอร์ คอร์ท ศูนย์การค้าแฟชั่นไอส์แลนด์ “มารี” ได้เปิดเผยถึงความสำเร็จจากบทบาทที่ได้รับในละครเรื่องนี้ด้วยความดีใจพร้อมกับขอบคุณที่แฟนละครที่ติดตามชมผลงานละครเเรื่องนี้ด้วย
บทนี้ทำให้คนเห็นฝีมือเรามากขึ้น หลายคนพูดว่าเป็นการก้าวกระโดดของมารีในฐานะนักแสดง ตอนที่รับคิดไหมว่าจะดังจากบทนี้?
“คือเราเองก็ไม่ได้คาดหวังถึงกระแส แต่ตั้งแต่เราอ่านบท มันเป็นบทที่ท้าทาย และเราก็อยากที่จะเล่นบทอะไรที่พลิกบทบาทแบบนี้มานานแล้ว เพียงแค่ว่ารอจังหวะและโอกาส”
ประสบความสำเร็จมากกับบท “กันยา” จากที่ดูไม่ว่าจะสีหน้าแววตา มารีเล่นเหมือนมาก ได้แรงบันดาลใจในการเป็นตัวละครตัวนี้มาจากไหน?
“กันยา” เป็นตัวละครที่เรารู้สึกว่าเป็นปัญหาของสังคมมาก ในพื้นฐานการกระทำของตัวละครตัวนี้ มันเป็นปัญหาที่มีอยู่จริงในสังคม ถึงอาจจะไม่ใช่เหตุการณ์แบบนี้ร้อยเปอร์เซ็นต์ แต่ก็อาจจะเป็นคนใกล้ตัวในรูปแบบอื่นก็ได้ เรารู้สึกว่าบทนี้มันมีความเรียลอยู่ ก็เลยเหมือนกับว่ากล้าที่จะแสดงออกแบบที่คิด มันไม่ใช่เรื่องที่เว่อร์เกินความเป็นจริง ยิ่งพอใส่เหตุผลลงไปว่าเขาก็ป่วย เป็นโรคไบโพลาร์ ขาดความอบอุ่นเพราะพ่อแม่แยกทางกัน คุณพ่อไม่สนใจ แม่ก็ไม่มี เขาขาดคนดูแลในชีวิต เขาไม่มีเสาหลักที่จะไปพักพิงได้ มันก็ยิ่งแสดงออกมาได้”
โดยส่วนตัว “มารี” รู้สึกอย่างไรกับ “กันยา”?
“คือเข้าใจว่าทำไมคนอื่นถึงเกลียดตัวละครตัวนี้ แล้วถ้าเป็นเราส่วนตัวผู้หญิงแบบนี้เราก็คงจะเกลียดมากเหมือนกัน เพียงแต่ว่าเราได้เห็นอีกมุมหนึ่งของเขา แต่มันก็ไม่ใช่ว่าเขาไม่ผิดนะ เราแยกแยะได้ว่าสิ่งที่เขาทำมันผิดจริงๆ”
ทุกครั้งที่มาถ่ายรู้สึกอย่างไร เครียดไหมกับการมารับบทนี้?
“ก็ไม่ได้ขนาดนั้นนะคะ แต่เวลาที่ถ่ายซีนอารมณ์หลายๆ ซีนในหนึ่งวัน มันก็จะแบบสะใจมากกว่า เหมือนสนุกและได้ปลดปล่อย ได้แสดงเป็นตัวร้ายที่แบบในชีวิตจริงเราไม่มีโอกาสได้เป็น”
รู้สึกอย่างไรบ้างกับความสำเร็จในวันนี้ที่มีแต่คนชื่นชมฝีมือการแสดงของ “มารี”?
“ก็ดีใจเพราะที่ผ่านมาเวลาคนพูดถึงส่วนใหญ่ก็จะบอกว่าสวยจังเลย การพูดถึงฝีมือการแสดงไม่ค่อยมี พอเรื่องนี้คนพูดถึงฝีมือการแสดงเยอะก็ดีใจและรู้สึกประสบความสำเร็จในระดับหนึ่งในฐานะนักแสดง”
ย้อนถามไปถึงก่อนหน้านี้เคยลังเลใจไหมในการรับแสดงเรื่องนี้ ที่ต้องมารับบทนางร้าย?
“ไม่ลังเลใจ เพราะสถานะการณ์ที่ได้รับบทนี้ก็คือผู้ใหญ่ที่เราไว้ใจเขาเป็นคนเสนอมา และไม่น่าจะทำเราเสียหายและเป็นช่องที่เรามั่นใจในคุณภาพของละครเขาอยู่แล้ว และเราก็อยากเล่นอะไรที่ท้าทายและสนุกอยู่แล้ว พอบทนี้มาอ่านเรื่องย่อแล้วแบบใช่เลย”
อย่างไรถึงจะไม่ใช่นางเอกแต่เธอก็เป็นนางร้ายที่ท็อปฟอร์ม เพราะเมื่อไม่นานมานี้มีกระแสข่าวว่ามีช่องใหญ่ช่องหนึ่งได้ส่งสารจีบเธอให้มาเซ็นสัญญาร่วมงาน เกี่ยวกับเรื่องนี้เธอยอมรับว่ามีคุยกันบ้างจริงแต่ตอนนี้ยังบอกอะไรไม่ได้
“ก็มีคุยๆ บ้างค่ะ แต่ยังไม่มีอะไรที่บอกได้ คอยดูต่อไปนะ เพราะก็ไม่แน่ไม่นอน กำลังดูเงื่อนไขรายละเอียดอยู่ ยังมีคุยๆ กันว่าจะยังไงได้บ้าง แต่จริงๆ มันก็อยู่ที่ความสบายใจในการทำงานด้วยแหละ เพราะเหตุผลที่เราเป็นนักแสดงอิสระตั้งแต่แรกมันก็มีความสบายใจอีกแบบ แต่อย่างที่เคยพูดว่ามันก็มีข้อเสียเหมือนกันในการที่เราไม่มีสังกัด ทีนี้เราก็ต้องคุยว่า เราต้องช่วยเขา และเขาก็ต้องช่วยเรา ถ้าเราตกลงกันได้ มันก็น่าจะไปด้วยกันได้ดีค่ะ”
ภาพ : ig @marie_broenner