พิมพิศา – พิชามญช์ ชมะนันทน์ กับชุดไทยจักรี
สองสาวฝาแฝดแห่งตระกูลชมะนันทน์ พริม-พิมพิศา และ แพรว-พิชามญช์ หลานปู่ พลเอก เกรียงศักดิ์ ชมะนันทน์ อดีตนายกรัฐมนตรี วันนี้ทั้งคู่นำผ้าเก่าที่เก็บไว้ในหีบไม้โบราณ อายุกว่า 50 ปีมาสวมเป็นครั้งแรกในรอบหลายสิบปี
พริมเริ่มเล่าถึงประวัติชุดผ้าไหมยกทองอันยาวนานของคุณย่าวิรัตน์ว่า “สมัยที่คุณปู่เป็นนายกรัฐมนตรี คุณย่าต้องต้อนรับแขกบ้านแขกเมืองบ่อยครั้ง ท่านใส่ชุดไทยออกงานตลอด เนื่องจากสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ รับสั่งว่า กลัวผ้าไทยจะสูญหาย ควรนุ่งผ้าไทยไว้ เพราะฉะนั้นเวลาคุณย่าเดินทางไปราชการตามจังหวัดต่าง ๆ ท่านจะสะสมผ้าไทยพื้นเมืองไว้ด้วยเสมอ โดยเฉพาะผ้าไหมจากทางเหนือและอีสานที่มีอยู่หลายผืน เพราะท่านชอบเป็นพิเศษ ด้วยลวดลายที่สวยงามเป็นเอกลักษณ์
แพรวช่วยเล่าต่อ “อย่างผ้านุ่งสองผืนที่เราสองคนสวมวันนี้ คุณย่าท่านซื้อมาจากจังหวัดเชียงใหม่ เป็นผ้าไหมยกดิ้นทอง อายุการใช้งานประมาณ 50 ปี คุณย่าใส่ออกงานพิธีการบ่อย ครั้งสุดท้ายที่ใส่น่าจะเป็นปี พ.ศ. 2521 คุณแม่ (กรองกาญจน์ ชมะนันทน์) มีเพื่อนทำงานอยู่ที่พิพิธภัณฑ์ผ้าฯ ท่านนำผ้าไปให้เพื่อนดู ได้รับคำบอกเล่าว่าเป็นลายโบราณ ละเอียดและประณีตมาก สอดดิ้นทองทั้งผืน ปัจจุบันไม่มีคนทำแล้ว ถ้าประเมินราคาก็หลักแสน ซึ่งตอนนั้นคุณย่าซื้อมาในราคาที่ถูกกว่านี้มาก”
พริมเสริมถึงวิธีการเก็บรักษาผ้าเก่า “คุณย่ามีวิธีการเก็บผ้าไทยที่พิถีพิถันมาก อย่างชุดไทยบรมพิมาน หลังจากซักแห้งกับร้านศรีกรุง ที่เจ้านายในวังใช้บริการส่งซักแห้งเป็นประจำแล้ว ท่านก็เก็บไว้ในหีบไม้หอมโบราณที่ซื้อจากเมืองจีนอายุประมาณ 50 ปี พอเปิดหีบออกมาจะมีกลิ่นหอม กลิ่นนี้มีไว้เพื่อไล่แมลงไม่ให้มากัดกินเสื้อ วิธีการเก็บผ้าคือต้องพลิกเสื้อด้านในออกมาข้างนอก เพื่อถนอมตัวผ้าไว้นานๆ”
แพรวยิ้มก่อนปิดท้ายบทสนทนา “ในความคิด ของแพรว เสน่ห์ของผ้าไทยอยู่ที่ความประณีตบรรจง ผ้าแต่ละผืนต้องผ่านกระบวนการมากมาย คนทอต้องมีความตั้งใจและอดทนมาก เป็นคุณค่าที่ควรให้ความสำคัญค่ะ”
แต่งหน้า : วีรญาภา บุญลือไกรลาศ ทำผม : ตริน ดิน
ศุทธิภา-ฟ้าใส บุณยัษฐิติ กับชุดไทยบรมพิมาน
แป้งจี่-ศุทธิภา และฟ้าใส หลานสาวสุดที่รักของท่านผู้หญิงอังกาบ บุณยัษฐิติ นำชุดของท่านผู้หญิงอังกาบและชุดของคุณย่าทวด ท่านผู้หญิงถวิล ประกอบนิติสาร มาให้แพรวชม
แป้งจี่เล่าให้ฟังด้วยรอยยิ้มว่า “วันนี้มีโอกาสใส่ชุดของคุณย่าทวด ท่านใส่ชุดนี้ตอนที่ถ่ายรูปคู่กับคุณย่า เมื่อตอนที่คุณย่าได้รับพระราชทานเครื่องราชอิสริยาภรณ์ทุติจุลจอมเกล้าวิเศษฝ่ายใน ซึ่งคุณย่าทวดจะใส่ชุดนี้ในวาระโอกาสสำคัญเท่านั้นค่ะ”
ส่วนฟ้าใสที่สวมชุดของท่านผู้หญิงอังกาบ ขยายความให้ฟังต่อว่า “คุณย่าใส่ชุดนี้ตอนเข้ารับพระราชทานเครื่องราชอิสริยาภรณ์ทุติยจุลจอมเกล้าวิเศษ เมื่อวันที่ 5 พฤษภาคม พ.ศ. 2534 ท่านทราบว่าได้รับพระราชทานล่วงหน้าก่อนพระราชพิธีเพียง 2 วันเท่านั้น โชคดีที่ท่านผู้หญิงโฉมศรี วินิจฉัยกุล ได้มอบผ้าไทยผืนนี้ให้คุณย่ามาหลายปีแล้ว จึงรีบนำไปให้คุณทวดชูจิตร สีบุญเรือง ซึ่งเป็นคุณน้าสะใภ้ของคุณปู่ (คุณโกวิท บุณยัษฐิติ) ที่มีความชำนาญในการตัดชุดไทยให้ช่วยตัดให้ ใช้เวลาตัดเพียง 1 วันเท่านั้น แต่ฝีมือประณีตมาก
“คุณย่าเข้ารับพระราชทานเครื่องราชอิสริยาภรณ์ที่พระที่นั่งดุสิตมหาปราสาท ท่านดีใจมากที่ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯพระราชทานเครื่องราชอิสริยาภรณ์ชั้นสูงในตระกูลจุลจอมเกล้า หลังจากวันนั้นคุณย่ามีโอกาสใส่ชุดนี้ในงานพระราชพิธีต่าง ๆ สำหรับเครื่องประดับที่ใส่เป็นของเก่าของคุณยายทวด คุณหญิงวาส ประสาทธาตุการย์ (มารดาของท่านผู้หญิงอังกาบ)
“วันนี้ได้นำมาใส่อีกครั้งจึงรู้สึกภาคภูมิใจที่ได้สวมชุดและเครื่องประดับของบรรพบุรุษ”
แต่งหน้า-ทำผม : วัชรีวรรณ ก้านกาบทอง
(อ่านต่อหน้า 3)