ตามรอยพิษสวาท ค้นประวัติชมกรุเก่าอยุธยา น่าเสียดายเหลือสมบัติให้ดูต่างหน้า ไม่เท่ากับที่เคยมี

อีกกรุหนึ่งที่ค้นพบโบราณวัตถุจำนวนมากไม่แพ้กันก็คือวันมหาธาตุ ที่อยู่ฝั่งตรงข้ามกับวัดราชบูรณะ วัดแห่งนี้มีพระปรางค์เป็นประธานเช่นกัน แต่ปัจจุบันเหมือนเพียงส่วนฐานที่ยังเหลืออยู่ เนื่องจากถูกทำลายไปเมื่อครั้งเกิดศึกสงคราม กรุสมบัติที่พบวัดนี้เจอครั้งแรกเมื่อปี พ.ศ. 2499 ระหว่างการบูรณะพระปรางค์ โดยพบอยู่ลึกจากพื้นพระปรางค์ลงไปถึง 17 เมตร ลักษณะของกรุก่อด้วยอิฐ เป็นรูปกากบาท ส่วนมุมกากบาทใช้ทรายถมจนเต็มช่อง สามารถแบ่งได้ 2 ส่วนคือ

ส่วนบน อยู่ลึกลงไปจากพื้นเรือนธาตุไม่มากนัก ประดิษฐานเจดีย์ก่ออิฐถือปูน ใต้เจดีย์องค์นี้พบโบราณวัตถุ ภาชนะรูปทรงปลา ทำจากหินเขียน เช่น สิงโตทองคำ ทองคำรูปโคมประดับทับทิม และกระปุกหินฝาทองคำ

ส่วนล่าง อยู่ลึกลงไปจากพื้นเรือนธาตุ 17 เมตร ประดิษฐานผอบหินทรงสี่เหลี่ยมสูงประมาณ 1.60 เมตร กว้าง 0.32 เมตร ภายในบรรจุพระบรมสารีริกธาตุ ซึ่งครอบด้วยสถูปที่ทำจากวัสดุต่างๆ ถึง 7 ชั้น นอกจากกรุในพระปรางค์ประธานนี้แล้ว ภายในพระปรางค์องค์อื่นๆ ของวัดยังพบกรุที่บรรจุโบราณวัตถุเช่นกัน เช่น กรุพระปรางค์ริมกำแพงแก้วด้านทิศเหนือ ค้นพบเมื่อ พ.ศ.2489 ภายในบรรจุลานทอง ผอบทอง และแผ่นทองรูปสัตว์ต่างๆ และกรุพระปรางค์ด้านทิศตะวันตก ค้นพบเมื่อปี พ.ศ.2493 ภายในบรรจุเจดีย์ทรงระฆังองค์เล็ก ทองคำรูปเศียรนาค ผอบทองคำ ดอกไม้ทองคำ และแผ่นทองคำรูปสัตว์ต่างๆ

นอกจาก 2 วัดนี้ที่พบสิ่งของมีค่าเป็นจำนวนมากแล้ว วัดอื่นๆ ที่สร้างขึ้นในสมัยกรุงศรีอยุธยา ก็มีการค้นพบโบราณวัตถุอีกเช่นกัน โดยเฉพาะที่วัดสุวรรณเจดีย์ ตั้งอยู่ด้านหลังวัดราชบูรณะ ได้ค้นพบว่าภายใต้ฐานของเจดีย์ทรงระฆัง มีกรุที่เก็บเครื่องทอง แหวนประดับอัญมณี ผอบที่ตกแต่งด้วยลายกลีบบัว พระพิมพ์ และแผ่นทองคำรูปช้าง ม้า ปลา และเต่าเป็นจำนวนมาก โดยสันนิษฐานว่าเป็นศิลปะที่อยู่ในสมัยอยุธยาตอนกลาง หรือประมาณพุทธศตวรรษที่ 21-22

อีก 1 วัดที่มีการค้นพบกรุก็คือ เจดีย์ 5 ยอด วัดพุทไธศวรรย์ ที่สร้างในสมัยสมเด็จพระเจ้าอู่ทอง ค้นพบกรุสมบัติเมื่อปี 2497 ในนั้นมีทั้งทองแผ่นบุส่วนรัศมี และเศียรพระพุทธรูปขนาดเล็ก 1 เศียร รวมทั้งชิ้นส่วนพระพุทธรูปต่างๆ ที่ทำจากทองคำ

สมบัติของชาติที่ถูกค้นพบมากมายขนาดนี้ ปัจจุบันเหลือเพียงน้อยนิดเท่านั้น ทั้งที่สมบัติเอาเฉพาะในกรุวัดราชบูรณะที่ทางกรมศิลปากรสามารถระบุจำนวนได้มีทองคำหนักมากถึง 100 กิโลกรัม แต่ที่สามารถตามเก็บคืนมาหลังจากที่มีเหตุลักลอบขุดกรุได้มาไม่ถึง 1 ใน 10 ส่วนที่มีด้วยซ้ำ ข้าวของทองคำต่างๆ ถูกขโมยแบ่งกระจัดกระจายหายไปมากทีเดียว แต่จุดจบของผู้คคนเหล่านี้ก็ไม่ได้ดีนัก อย่างในละครอาจจะเห็นจุดจบที่น่ากลัวถูกคุณอุบลไล่ตามจนมีอันเป็นไปในที่สุด แต่เรื่องจริงที่เกิดขึ้นก็ไม่ได้ต่างจากการตาย เพราะด้วยความโลภของหัวขโมยที่แบ่งข้าวของกันไม่ลงตัว บางคนก็ถึงกับเป็นบ้า ฆ่าตายกันเองก็มี

สำหรับใครที่อยากไปชมสมบัติที่ขุดเจอในกรุของโบราณสถานในอยุธยาที่ยังหลงเหลืออยู่ สามารถไปชมของจริงได้ที่พิพิธภัณฑ์แห่งชาติเจ้าสามพระยา จ.พระนครศรีอยุธยา

เรื่อง/ภาพ : SRIPLOI

ขอขอบคุณข้อมูลจาก พิพิธภัณฑ์สถานแห่งชาติเจ้าสามพระยา และหนังสือ เครื่องทองสมัยอยุธยา จากกรมศิลปากร