Mulberry “Lily Zero” กระเป๋าที่มีความเป็นกลางทางคาร์บอน

account_circle

Mulberry เปิดตัวกระเป๋าคอลเล็คชั่นแรกที่มีความเป็นกลางทางคาร์บอน (Carbon Neutral) ภายใต้ชื่อ Lily Zero โดยชื่อของคอลเล็คชั่นนั้นได้รับแรงบันดาลใจจากความมุ่งมั่นและคำมั่นสัญญาของแบรนด์ที่พร้อมจะเดินหน้าสู่นโยบาย Net Zero หรือ การปล่อยก๊าซเรือนกระจกเป็นศูนย์ ซึ่งจะทำให้สำเร็จภายในปี 2035 

Mulberry “Lily Zero” กระเป๋าที่มีความเป็นกลางทางคาร์บอน

โดยกระเป๋ารุ่น Lily Zero มาใน 12 สไตล์ ในรูปแบบของกระเป๋ารุ่น Lily ซึ่งกระเป๋าในคอลเล็คชั่นนี้มีความเป็นกลางทางคาร์บอนอย่างเต็มรูปแบบ ตั้งแต่ที่มาของวัสดุไปจนถึงสินค้าที่วางจำหน่ายในร้าน

คอลเล็คชั่นกระเป๋ารุ่น Lily ที่ได้รับการเปิดตัวไปเมื่อปี 2010 ได้กลายมาเป็นหนึ่งในกระเป๋ารุ่นซิกเนเจอร์ของแบรนด์ Mulberry ด้วยรูปแบบของตัวกระเป๋าที่มีความนุ่มนิ่ม ทั้งยังมาพร้อมสายโซ่สะพายไหล่ ทำให้สามารถใส่ได้กับทุกลุคตั้งแต่เช้าจรดค่ำ

กระเป๋ารุ่น Lily นี้มาพร้อมขนาดและสไตล์ที่หลากหลาย มีทั้งสไตล์แบบดั้งเดิมไปจนถึงแบบใหม่ที่มีหูจับด้านบน แต่ไม่ว่าจะเป็นกระเป๋าสไตล์ไหน ตัวกระเป๋าก็ได้ถูกตกแต่งด้วยตัวล็อค Postman’s Lock ซึ่งเป็นวัสดุฮาร์ดแวร์อันเป็นเอกลักษณ์ของแบรนด์ Mulberry

กระเป๋ารุ่น Lily Zero ถูกสร้างสรรค์ขึ้นโดยช่างฝีมือมากทักษะและประสบการณ์จากโรงงานของแบรนด์ที่เมือง Somerset ซึ่งได้มาตรฐานเรื่องความเป็นกลางทางคาร์บอน ควบคู่ไปกับการใช้แผ่นหนังจากโรงฟอกหนังในประเทศเยอรมัน ที่คงนโยบายในมาตรฐานเดียวกัน โดยมีการวัดค่า ลด และชดเชยปริมาณการปล่อยก๊าซคาร์บอนในขั้นตอนการผลิต

ทั้งนี้นอกเหนือจากกระเป๋ารุ่น Lily Zero แล้ว กระเป๋าปั๊มลายเกรนรุ่นอื่น ๆ คิดเป็นสัดส่วนกว่า 26% ของคอลเล็คชั่นกระเป๋าประจำฤดูใบไม้ร่วงฤดูหนาว 2022 ยังได้นำเอาวัสดุหนังที่ได้รับมาตรฐาน Carbon Neutral มาใช้อีกด้วย แบรนด์ Mulberry ได้ทุ่มเททำงานกับโรงฟอกหนังอย่างใกล้ชิดมากว่าทศวรรษ เพื่อแสดงให้เห็นถึงความมุ่งมั่นในการร่วมมือกับซัพพลายเออร์ที่ดีที่สุดในอุตสาหกรรม ในการผลิตสินค้าที่มีความยั่งยื

การนำเอากระบวนการ Life Cycle Assessment หรือ กระบวนการวิเคราะห์และประเมินค่าผลกระทบของผลิตภัณฑ์ต่อสิ่งแวดล้อมตราบเท่าที่ผลิตภัณฑ์นั้นยังคงอยู่ มาใช้วิเคราะห์เพื่อหาค่าการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ตลอดทั้งกระบวนการผลิต ตั้งแต่ส่วนประกอบต่าง ๆ การขนส่ง ไปจนถึง บรรจุภัณฑ์

ซึ่งทั้งหมดนี้ได้ผ่านกระบวนการชดเชยคาร์บอนเครดิตหรือการชดเชยการปล่อยก๊าซคาร์บอนด้วยกิจกรรมอื่น ซึ่งทาง Mulberry ได้ร่วมมือกับองค์กร World Land Trust ซึ่งเป็นองค์กรการกุศลเพื่อสิ่งแวดล้อม ในการลดและจำกัดปริมาณก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ในอากาศ

สำหรับกระเป๋ารุ่น Lily Zero มาในเฉดสีคลาสสิกเหนือกาลเวลาอย่าง สีดำ ไปจนถึงเฉดสีตามฤดูกาลอย่าง สีชมพูสดใส Mulberry Pink

จากความมุ่งมั่นในคำมั่นสัญญาของแบรนด์ Mulberry ที่ได้กล่าวไว้ในแถลงการณ์ Made to Last ซึ่งได้เปิดตัวไปเมื่อปี 2021 ที่ผ่านมา สู่กระเป๋ารุ่น Lily Zero ซึ่งนับเป็นเรื่องราวบทล่าสุดของแบรนด์ในการเปลี่ยนแปลงเข้าสู่โมเดลการผลิตแบบหมุนเวียนและครอบคลุมห่วงโซ่อุปทานทั้งหมด (Supply Chain) พร้อมผลักดันนโยบาย Net Zero ในการปล่อยก๊าซเรือนกระจกเป็นศูนย์ให้ได้ภายในปี 2035

เพื่อเป็นการศึกษาและเรียนรู้ถึงที่มาของเครื่องหนังในประวัติศาสตร์ของอุตสาหกรรมแฟชั่น รวมไปถึงบทบาทเรื่องความยั่งยืนของเครื่องหนังในอนาคต แบรนด์ Mulberry จึงได้ทำการเปิดตัวช่องพอดแคสต์อันแรกของแบรนด์ ในชื่อ ‘Made to Last’ 

โดยซีรีส์แรกนั้น ได้รับเกียรติจากนักข่าวสายแฟชั่นอย่าง Susie Lau มาเป็นโฮสท์ และจะพาคุณผู้ฟังเดินทางไปพบกับเรื่องราวของอุตสาหกรรมแฟชั่นและเครื่องหนังผ่านพอดแคสต์ทั้งหมดสามตอน (Episode) พร้อมด้วยแขกรับเชิญที่หลากหลาย เช่น ผู้จัดรายการโทรทัศน์ชื่อดังอย่าง Miquita Oliver ไล่เรียงไปจนถึง Nicholas Daley แฟชั่นดีไซน์เนอร์ดาวรุ่ง Judith Watt นักประวัติศาสตร์ด้านแฟชั่น และ Rob Percival นักเขียนและหัวหน้าด้านนโยบายด้านอาหารจากองค์กรการกุศล Soil Association

นอกจากนั้นแล้วทางแบรนด์ยังได้เปิดตัวรายงานความยั่งยืนฉบับแรกเพื่อให้สอดคล้องกับความมุ่งมั่นของ Mulberry ในด้านความโปร่งใส และเป็นการแชร์ข้อมูลความคืบหน้าจากปีที่ผ่านมา โดยไฮไลท์บางส่วนของรายงานแสดงให้เห็นถึงการเพิ่มขึ้นของปริมาณการใช้วัสดุหนังจากโรงฟอกที่ได้รับการรับรองมาตรฐานทางสิ่งแวดล้อมที่เพิ่มขึ้นถึง 88% ซึ่งทางแบรนด์ได้วางเป้าหมายไว้ที่ 100% ภายในปี 2023 

ทั้งนี้แบรนด์ Mulberry ในสหราชอาณาจักร ได้มีการใช้นโยบาย Carbon Neutral ติดต่อกันมาเป็นปีที่ 3 แล้ว และยังได้ทำการวัดประเมินค่าคาร์บอนฟุตพริ้นท์พื้นฐานและตั้งเป้าหมาย Science-Based Targets ในการลดก๊าซเรือนกระจกเพื่อพัฒนาแผนงานให้บรรลุเป้าหมายตามนโยบาย Net Zero by 2035 นอกจากนั้นแล้วยังมีแคมเปญ Mulberry Exchange ซึ่งทางแบรนด์ได้ซ่อมแซมและปรับคืนสภาพให้กับสินค้าไปแล้วกว่า 10,000 ชิ้น ณ ศูนย์บริการ Lifetime Service Centre รวมไปถึงการหาเจ้าของคนใหม่ให้กับกระเป๋ามือสองกว่าพันใบ


 

Praew Recommend

keyboard_arrow_up