สลิลาพร กองทองมณีโรจน์…จากนักร้องลูกทุ่งสู่หมอยา รายได้มหาศาล!

สลิลาพร กองทองมณีโรจน์ ชีวิตต้องฟันฝ่า จากนักร้องสู่หมอยา รายได้มหาศาล!

สลิลาพร กองทองมณีโรจน์ ลูกสาวของคอเพลงลูกทุ่งรุ่นเก๋าอย่าง ศรเทพ ศรทอง เจ้าของเพลง ส่งแอ๋วเรียนราม ที่เราคุ้นหูกันเป็นอย่างดี เธอกำลังเดินตามรอยพ่อมาชนิดก้าวต่อก้าว ทั้งการเป็นนักร้องลูกทุ่งและหมอยา ที่วันนี้เธอพัฒนาสมุนไพรให้อยู่ในรูปแบบผลิตภัณฑ์เสริมอาหารในชื่อ I-Dee

25590818-IMG_1373 rt1“มุ่ยภูมิใจในตัวคุณพ่อ ท่านเป็นอดีตนักร้องลูกทุ่งที่ประสบความสำเร็จในธุรกิจ ขณะเดียวกันก็คิดว่าคุณพ่อคงภูมิใจในตัวมุ่ย เพราะเป็นลูกผู้หญิงคนเดียวที่สืบทอดวิชามาหมด ท่านเคยบอกว่าอีก 3-4 ปีจะวางมือ แต่มุ่ยยังคิดว่า ท่านยังไหว เพราะแม้จะอายุ 64 ปีแล้วก็ตาม แต่ยังแข็งแรง ขับรถเอง จัดรายการตั้งแต่ 2-3 ทุ่มจนถึงเช้าทุกวัน ความจำดีมาก ไม่ค่อยป่วยเพราะทานยาสมุนไพรของตัวเองทุกวัน โดยเฉพาะไอซ์เบิร์ก”

คุณมุ่ย กรรมการผู้จัดการบริษัท Me Infinity (Thailand) จบประโยคพร้อมเสียงหัวเราะ

พ่อคือ Idol จากหลังไมค์สู่หลังร่วมยา

จากชื่อเสียงของหัวหน้าครอบครัวที่เป็นนักร้องดัง จึงทำให้ครอบครัว กองทองมณีโรจน์ เป็นครอบครัวใหญ่ แต่ในบรรดาลูกแม่เดียวกัน มีเธอคนเดียวที่ตามรอยพ่อมาอย่างเหนียวแน่น

“คุณพ่อกับคุณแม่เลิกกันตั้งแต่มุ่ยยังเด็ก มีพี่น้องจากแม่เดียวกัน 3 คน ไม่รวมจากแม่อื่นที่ตามมาอีก (หัวเราะ) มุ่ยเป็นลูกคนเดียวที่ได้อยู่กับคุณพ่อ ส่วนพี่สาวกับพี่ชายอยู่กับคุณตาคุณยาย จำได้ว่าตอนมุ่ยอายุ 10 ขวบ กระแสลูกทุ่งเริ่มแผ่ว คุณพ่อจึงวางไมค์แล้วใช้วิชาที่ได้รับถ่ายทอดมาจากคุณทวด ซึ่งเป็นหมอแผนโบราณประจำหมู่บ้านมาทำธุรกิจ ตั้งแต่จัดยาสมุนไพร จากยาหม้อ ก็พัฒนาจนมีโรงงานของตัวเอง สามารถผลิตทั้งแคปซูลและยาลูกกลอน ถึงจัดจำหน่ายครบวงจร ขึ้นทะเบียนตำรับยากับสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) ใช้ชื่อว่า ตรานารายณ์ทอง ต่อมาถูกโกงเครื่องหมายการค้าจึงเปลี่ยนชื่อเป็น ยาตราศรเทพ แล้วมุ่ยเป็นเด็กขี้โรค ไม่ชอบทานยา พอน้ำเหลืองเสีย คุณพ่อต้มยาแล้วบังคับให้ทาน เป็นหอบหืดก็ถูกจับกวาดยา มุ่ยจำความขมของยาได้ไม่เคยลืม คงค่อยๆ ซึมซับมาโดยไม่รู้ตัว พอเรียนจบก็เบนเข็มมาที่สายบริหารทั้งปริญญาตรีและโท ตั้งใจมาช่วยบริหารธุรกิจของคุณพ่อ

“ขณะเดียวกันคุณพ่อสอนให้ทำหลายอย่าง เช่น จัดรายการวิทยุ แม้กระทั่งสิ่งที่ไม่น่าเป็นไปได้อย่าง ร้องเพลง เมื่อประมาณ 5-6 ปีที่แล้ว ครูเพลงเขียนเพลงให้วันเกิดคุณพ่อ เป็นเพลงเพื่อพ่อ แล้วใครจะร้องได้ซึ้งเท่ากับลูก ทั้งที่มุ่ยขี้อายมาก แต่เพื่อคุณพ่อ จึงยอมไปอัดเสียงแล้วมาเปิดเซอร์ไพร์สในวันเกิด ท่านฟังแล้วบอกว่า ร้องได้นี่ เท่านั้นละ ให้ครูแต่งเพลง รวมทั้งซื้อเพลงเก่าให้มุ่ยร้อง มุ่ยบอกพ่อว่า หนูไม่เคยเรียนร้องเพลง เดี๋ยวพ่อจะเสียชื่อ ท่านจึงให้กำลังใจว่าที่ร้องมาใช้ได้แล้ว ตั้งชื่ออัลบั้มเองเลยว่า ‘คุณพ่อขอร้อง’ แล้วขอร้องจริงๆ จนมีอัลบั้มต่อมาเสร็จเมื่อต้นปี มีทั้งเพลงเก่าและเพลงที่แต่งใหม่อีก 2-3 เพลง ชื่อเพลงฝันดี แต่งโดยครูชลธี ธารทอง ศิลปินแห่งชาติ และเพลง ดูยังไงก็ไม่แก่ เป็นเพลงสนุกๆ คุณพ่อเปิดในรายการวิทยุให้แฟนเพลงของเขาฟัง แต่มุ่ยไม่รับงานนอกนะคะ เพราะไม่ได้มืออาชีพขนาดนั้น ยกเว้นงานวันเกิดคุณพ่อ หรืองานไหว้ครู ที่ทุกปีจะมีคอนเสิร์ตนักร้องลูกทุ่งเก่าๆ มุ่ยจะได้ขึ้นไปร่วมร้องด้วย

“เชื่อไหมคะ ในงานไหว้ครูยาที่จัดที่บ้าน มุ่ยเห็นตั้งแต่คนมาร่วมงานจำนวนหลักร้อยจนถึงวันนี้จำนวนหลักหมื่น ส่วนใหญ่เป็นคนไข้ที่เชื่อมั่นและศรัทธาในตัวคุณพ่อ ทานยาแล้วหายก็มารับยา เพราะคุณพ่อแจกยาทุกปี ภาพที่มุ่ยจำติดตาไม่เคยลืมเลยคือ มีอยู่ปีหนึ่งใกล้ค่ำแล้ว คุณป้าคนหนึ่งหอบทุเรียนมาประมาณ 4-5 ลูกเดินมาถามมุ่ยว่า อาจารย์อยู่ไหม ป้ามาจากต่างจังหวัด รู้ว่าอาจารย์ชอบทุเรียนก็เลยซื้อมาฝาก คุณพ่อเดินออกมาพอดี เท่านั้นละ ภาพที่คุณป้าวางทุเรียนแล้วนั่งพนมมือไหว้บอกว่า ฉันรอดตายได้เพราะยาของอาจารย์ จึงมีชีวิตอยู่มาได้จนถึงวันนี้ มุ่ยเห็นแล้ว ทั้งปลื้มใจในยาของครอบครัวเราที่สามารถช่วยชีวิตผู้ป่วย ทั้งภูมิใจในตัวคุณพ่อ จึงเป็นไอดอลและแรงบันดาลใจในการทำงานของมุ่ยตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา”

ไอซ์เบิร์ก อาหารเสริมสร้างชื่อ ศรเทพนารายณ์ทอง

         เมื่อเธอเลือกเส้นทางสายหมอยาเช่นเดียวกับคุณพ่อ จึงได้ชื่อว่าเป็นผู้หญิงเจ้าบทบาท ทั้งนักร้องลูกทุ่ง หมอยาแผนโบราณ จนถึงผู้บริหาร

มุ่ยเรียนแพทย์แผนไทยและเภสัชกรรมด้วย เพราะคิดว่าอย่างน้อยสมุนไพรศรเทพนารายณ์ทอง ซึ่งเป็นธุรกิจของที่บ้าน ณ วันนี้มีประมาณ 200 สาขาทั่วประเทศ หากเราได้ใบประกอบโรคศิลป์ฯ ก็สามารถช่วยคุณพ่อได้เต็มตัวมากกว่านั่งบริหารอย่างเดียว แม้เรียนยากมาก เพราะต้องสอบทฤษฏีและปฎิบัติประมาณ 3 ปี แต่ทำให้เราได้มีโอกาสสัมผัสกับคนไข้ได้อย่างมั่นใจ เมื่ออ่านจากฐานประวัติกลุ่มคนไข้ของคุณพ่อส่วนใหญ่อายุ 50-60 ปีจะเป็นเบาหวาน ความดัน โรคไต ก็ต้องยอมรับว่า ส่วนใหญ่เป็นตลาดต่างจังหวัด เพราะชาวบ้านยังมีความเชื่อมั่นในยาสมุนไพรไทยอยู่ ขณะที่เด็กรุ่นใหม่ติดอยู่กับความเชื่อเดิมๆ ที่ว่า ยาลูกกลอนมีส่วนผสมของสารสเตียรอยด์ ไม่ปลอดภัย เพราะมีพ่อค้าบางกลุ่มที่หลอกขายจนทำให้วงการยาสมุนไพรหมดความน่าเชื่อถือ มุ่ยเจอลูกหลานที่พาผู้ใหญ่มาซื้อยาถามเยอะมากว่า ดีจริงหรือ หายจริงหรือ ส่วนใหญ่หมอบอกว่า ไม่สามารถรักษาได้แล้วจึงหันมาหายาสมุนไพร มีเกินครึ่งของคนไข้ที่มาหามุ่ยต้องฟอกไตแล้ว หรือกรณีเบาหวาน ระดับน้ำตาลในเลือดขึ้นถึง 300-400 เคยหมดสติเข้าโรงพยาบาลแล้ว จากสรรพคุณของสมุนไพรสามารถกู้ได้ เดือนแรกอาจทานคู่กับยาแผนปัจจุบัน แล้วค่อยๆ ลดจำนวนลงจนเหลือแต่ยาสมุนไพร ประมาณ 2-3 เดือนจะรู้สึกดีขึ้น มุ่ยคิดว่า ภาครัฐควรประชาสัมพันธ์ให้ชัดเจนว่า ไม่ควรทานยาลูกกลอนที่ไม่ได้ขึ้นทะเบียนยา หรือไม่มี อย. เพื่อไม่ให้ยาสมุนไพรไทยที่ขึ้นทะเบียนยาอย่างถูกต้องโดนเหมารวมไปด้วย

“กระทั่ง 3 ปีที่แล้ว มุ่ยรู้สึกว่ามีช่องทางที่สามารถพัฒนาต่อยอดได้ จึงถามคุณพ่อว่า ลองทำเป็นผลิตภัณฑ์เสริมอาหารดูไหม ก่อนหน้านี้คุณพ่อเคยนำสมุนไพรไทยที่มีสรรพคุณช่วยเพิ่มประสิทธิภาพทางเพศมาให้กลุ่มลูกค้าได้ลองใช้ ปรากฎว่าโทรมาขอเยอะมาก รับสายกันไม่หวาดไม่ไหว มุ่ยจึงพัฒนาเป็น ไอซ์เบิร์กบำรุงสมรรถภาพของร่างกาย โดยเฉพาะสมรรถภาพทางเพศ (หัวเราะ) 3 ปีประสบความสำเร็จสูงมาก ผู้ชายสูงวัยสามารถกลับมากระชุ่มกระชวยอีกครั้ง ต้องยกเครดิตให้คุณพ่อ ท่านใช้เอง เป็นแบรนด์แอมบาสเดอร์ด้วย ทั้งนี้เพื่อให้ตรงกับปรัชญาของบริษัทคือ ‘ซื่อสัตย์กับลูกค้า สินค้าต้องมีคุณภาพ’

I-Dee อาหารเสริมจากสมุนไพรไทยมีดีที่ตัว

         เมื่อลองฝึกทำตลาดจากไอซ์เบิร์ก ก็มาสู่ I-Dee ที่เธอสร้างคาแรคเตอร์ใหม่ให้กับสมุนไพรไทย ด้วยการทาบทามออร์กาไนเซอร์คนดัง ‘ตือ (สมบัษร ถิระสาโรช) เป็นแบรนด์ แอมบาสเดอร์

“คุณพ่อบอกว่าส่วนใหญ่ผู้สูงอายุมีปัญหาเรื่องสายตา และความจำ ต้องบำรุงสมอง สายตา และสุขภาพโดยรวม เมื่อมุ่ยมาศึกษาข้อมูลโดยรวมของกลุ่มคนไข้ก็พบว่า มีปัญหาจริง จึงคุยกับทีมเภสัชฯ ของบริษัทว่า อยากออกผลิตภัณฑ์ที่ตอบโจทย์บำรุงสมองและสายตา ใช้สมุนไพรและสารสกัดจากธรรมชาติที่ชื่อว่า Inositol หรือวิตามิน B8 มีสรรพคุณในการบำรุงตับ คุณหมอชมว่า ดีมาก ยังไม่เคยเห็นแบรนด์ไหนนำมาผสมกันเลย ตั้งชื่อว่า I-Dee เปิดบริษัท Me Infinity (Thailand) แยกบริษัทออกมาจาก กองทองสมุนไพรไทย ของคุณพ่อ พอดีว่ามุ่ยสนิทกับพี่ตือ (สมบัษร ถิระสาโรช) เขาให้มุ่ยช่วยปรุงยาที่บำรุงสมอง บำรุงสายตา และช่วยด้านผิวพรรณด้วย จึงให้ผลิตภัณฑ์ I-Dee ไปทดลอง กล่องหนึ่งมี 30 แคปซูล ทานวันละเม็ด แต่หากร่างกายอ่อนล้ามากๆ ทานเช้า-เย็น อย่างละเม็ด ผ่านไป 1 อาทิตย์พี่ตือโทรมาบอกว่า ดีมาก จากสมองที่เคยล้ารู้สึกสดชื่นชึ้น รวมทั้งสายตาด้วย ปลื้ม เลิฟเลย มุ่ยจึงทาบทามพี่ตือมาเป็นแบรนด์ แอมบาสซาเดอร์ เพราะมุ่ยอยากส่งสิ่งที่ดีและเห็นผลได้จริงให้กับผู้บริโภค พี่ตือจึงยอม เปิดตัวเมื่อวันที่ 23 สิงหาคม ที่ผ่านมา สามารถหาซื้อได้ที่ท็อป มาร์เก็ต และร้านบู๊ทส์

“ลองเปิดใจให้กับสมุนไพรไทยสักครั้ง ทานได้ทุกวัย ไม่มีสารตกค้าง ไม่มีผลกับตับ อย่างน้อยก็ได้ช่วยสืบทอดตำรับยาของคนไทยให้คงอยู่ต่อไป”

 เรื่อง/ภาพ : นิตยสารแพรว

 

Praew Recommend

keyboard_arrow_up