“ยอดไลค์ก็ดี แต่ที่อยากมีคือยอดรัก” โม-จิรัชยาเปิดใจเรื่องรัก ! เห็นสวยมั่นหน้าขนาดนี้ แต่เรื่องหัวใจเจ็บมาเยอะ!

โม-จิรัชยาเปิดใจเรื่องรัก และเผยเบื้องการประกวดกว่าจะได้ครองมงกุฏ Miss Tiffany ไม่ใช่ง่าย!

โม-จิรัชยาเปิดใจเรื่องรัก ครั้งแรก รวมทั้งเรื่องราวเบื้องหลังการประกวดเวที Miss Tiffany โดยเริ่มมาสายนี้ครั้งแรกเมื่อตอนอายุ 23 ปี แต่ทำได้แค่เข้ารอบ 30 คนสุดท้าย มาปีนี้เธอกลับมาอีกเป็นครั้งที่ 2 ทำให้เจอกับคำวิพากษ์วิจารณ์ คำดูถูกต่างๆ นานาว่าหน้าช้ำขนาดนี้อย่างมากคงได้แค่ที่สอง แต่โมก็ได้พิสูจน์ให้เห็นแล้วว่าถ้าเตรียมพร้อมทุกด้าน อะไรก็ไม่สามารถฉุดรั้งไว้ได้จริงๆ

โม-จิรัชยาเปิดใจเรื่องรักวันนี้แพรวดอทคอมมีนัดพูดคุยกับสาวโม เจ้าของตำแหน่ง Miss Tiffany’s Universe 2016 จากภาพที่คิดไว้ตอนแรกว่าต้องออกแนวสวยหยิ่ง นิ่งๆ เข้าถึงยาก ไม่ค่อยพูด แต่พอได้เจอตัวจริง สิ่งที่มะโนขึ้นมาก็สลายหายไปทันที ไม่ถือตัว ไม่หยิ่ง ตลก จริงใจ คุยเล่นได้ นี่แหละ ‘โม จิรัชยา’

โม-จิรัชยาเปิดใจเรื่องรักเริ่มรู้ว่าตัวเองอยากเป็นผู้หญิงตอนไหน
ตอนอยู่มัธยมปลาย โรงเรียนชายล้วนค่ะ ตอนนั้นก็เริ่มพกกระจก เครื่องสำอาง แอบกินยาคุม แต่ครอบครัวยังไม่เปิดรับเท่าไหร่ จึงพยายามหากิจกรรมมาให้โมทำ เช่น ตีเทนนิส ว่ายน้ำ เพื่อที่ถ้ามีเวลาว่างจะได้ไม่ต้องอยู่กับเพื่อนกลุ่มที่เป็นแบบเดียวกับเรา คือจริงๆ เขาก็รู้แหละว่าเราเป็น แต่ไม่อยากให้ทำตัวหรือพูดจาแรงๆ แสดงออกตามอย่างเพื่อน  แต่พอเข้ามหาวิทยาลัย เขาก็เปิดกว้าง คงเห็นว่าเราโตแล้ว ก็แต่งหญิงเลยจ้า ทำให้มีเพื่อนๆ  มาชื่นชมในความสวยของเรา (ทำท่าภูมิใจ) ช่วงนั้นถ้ามีคนเข้ามาจีบ หรือมีแฟนก็บอกแม่ทุกเรื่อง แม่ก็จะเป็นคนเบรคตลอดว่าอย่าเพิ่งมีแฟนเลย เพราะกลัวลูกจะโดนหลอก(หัวเราะ)

โม-จิรัชยาเปิดใจเรื่องรักตัดเข้าโฆษณาเองอย่างนี้ งั้นถามเลย มีหนุ่มๆ เข้ามาจีบเยอะไหม
ก็มีเข้ามาคุย มาจีบบ้าง  พูดได้เลยว่าจากประสบการณ์ผู้ชายที่โมเจอมาเองกับตัว ส่วนมากจะเป็นพวกชอบให้เราไล่ตาม แต่พอเราเหนื่อยแล้วหยุด เขาก็จะเข้ามาละ อารมณ์เหมือนเลี้ยงไข้เราไปเรื่อยๆ ไม่ชัดเจน ยอมรับว่ากับเรื่องความรักที่ผ่านมา  โมเจอแต่เรื่องเสียใจ โดนหลอก ทั้งๆ ที่ก่อนคบกันก็ถามเปิดใจเลยว่า มีแฟนหรือเปล่า เพราะถ้ามีแฟนก็ไม่คุย พอบอกว่าเคยมีแต่เลิกกันไปแล้ว โอเคเราเชื่อใจ ก็เริ่มที่จะคบหาดูใจกัน 4-5 เดือนผ่านไป กลายเป็นมารู้ที่หลังว่าเขามีแฟนที่คบกันมานานแล้ว โอ้โห เสียใจมาก เหมือนเราลอยได้ คนที่อยู่รอบข้างต่างบอกว่าโมเปลี่ยนไปเลย เดินชนโน่นชนนี่ นั่งเหม่อลอย จ้องแต่โทรศัทท์ รอเขาโทรกลับมา นั่งร้องไห้เป็นบ้าเป็นบอ  เป็นอยู่แบบนั้นเกือบ 4 เดือนน่ะ เป็นความรักที่ทำให้เรารู้สึกแย่  โชคดีที่ทางบ้านคอยให้กำลังใจ ทำให้รู้ว่าถึงแม้จะไม่มีใครรัก แต่อย่างน้อยก็มีพ่อแม่ที่อยู่เคียงข้างเรา

Praew Recommend

keyboard_arrow_up