Diet and Health

คงนึกภาพออกว่า สาวญี่ปุ่นส่วนใหญ่มีรูปร่างเพรียวบาง โดยเฉพาะเมื่อเทียบกับสาวตะวันตก เคล็ดลับอยู่ที่การบริโภคอาหารแบบดั้งเดิม ด้วยส่วนประกอบหลัก เช่น ผัก เห็ด ปลา สาหร่าย ธัญพืช ถั่วเหลืองและชาเขียว ที่ล้วนมีไขมันในปริมาณต่ำ ย่อยง่าย มีวิตามินและสารอาหารที่ทำให้ผิวพรรณสดใสเปล่งปลั่ง ‘ตะเกียบ’ ตัวช่วยของสาวอยากเพรียว : เมื่อเทียบกับช้อนส้อมแล้วตะเกียบสามารถตักอาหารได้ปริมาณน้อยกว่า ซึ่งการกินอาหารคำเล็กทำให้เคี้ยวอาหารได้ละเอียด ย่อยง่าย แถมตะเกียบทำให้กินอาหารได้ช้ากว่า ซึ่งเป็นการทิ้งเวลาให้สมองสั่งการว่า ท้องอิ่มแล้ว จึงกินอาหารในปริมาณน้อยลงชะลอวัยได้ด้วยเห็ด : ส่วนประกอบสำคัญจากหลายเมนูในอาหารญี่ปุ่น เห็ดเป็นแหล่งสารอาหารที่ดีเยี่ยมในการสร้างระบบภูมิคุ้มกัน มีคลอเรสเตอรอลต่ำ และมีสารต้านอนุมูลอิสระซึ่งช่วยลดริ้วรอยเป็นอย่างดี ผมสวยผิวดีด้วยสาหร่าย : สาหร่ายญี่ปุ่นนอกจากอร่อยแล้วยังมีประโยชน์ในด้านความงามเพราะมีธาตุเหล็กทำให้ผิวพรรณเปล่งปลั่ง และช่วยบำรุงให้เส้นผมดกดำเงางาม เรื่อง : Padchaที่มา : นิตยสารแพรวฉบับ 840 คอลัมน์ beauty adviceภาพ : Pinterset

Hair Care : Soft Shiny Hair with Little or No Shampoos and Conditioners

ชาวญี่ปุ่นเคยใช้สาหร่ายและน้ำมันจากธรรมชาติในการทำความสะอาดและบำรุงเส้นผม เป็นเวลายาวนานหลายศตวรรษก่อนที่แชมพูและครีมนวดจะเข้ามามีบทบาท ผมเงางามด้วยน้ำมันจากธรรมชาติ : การชะโลมปลายผมด้วยน้ำมันจากดอกคามิลเลียไม่เพียงทำให้ผมนุ่มสลวยเป็นเงางาม แต่ยังช่วยให้จัดทรงง่าย ช่วยป้องกันเส้นผมจากการสูญเสียความชุ่มชื้น และป้องกันปัญหาผมแห้งเสียแตกปลายสำหรับสาวๆ ที่ชอบทำสีผมอย่างสาวญี่ปุ่นได้เป็นอย่างดี สาหร่ายคมบุคู่แท้ผมสวย : นำสาหร่ายญี่ปุ่นแช่น้ำประมาณ 15 นาที จากนั้นนำน้ำแช่สาหร่ายมานวดผม แล้วจึงล้างออกด้วยน้ำสะอาด เพื่อผลลัพธ์ผมนิ่มสลวยเงางาม เรื่อง : Padchaที่มา : นิตยสารแพรวฉบับ 840 คอลัมน์ beauty adviceภาพ : Pinterset

เผยเคล็ดลับผิวขาวใสสไตล์สาวญี่ปุ่นสาหร่ายวากาเมะ

สาวๆ หลายคนคงเคยสงสัยว่าทำไมสาวแดนอาทิตย์อุทัยถึงมีสุขภาพดีและมีผิวขาวใสวิ้งน่าสัมผัส วันนี้จะมาเผยหนึ่งในเคล็ดลับผิวสวยของสาวญี่ปุ่นคือ “สาหร่ายวากาเมะ” ที่มีประโยชน์ต่อร่างกายและผิวพรรณให้สาวไทยได้รู้กัน

ผิวกายใสกิ๊ง

สาเหตุของผิวหมองคล้ำ ไม่สม่ำเสมอ อาจเป็นเพราะเกิดจากเซลล์ผิวเสื่อมสภาพ และการสะสมของสารพิษที่ตกค้างบนชั้นผิว ANNE SÉMOININ

keyboard_arrow_up