การฝึกโยคะ

เป็นอีกหนึ่งคุณ  แม่สวยเป๊ะ  หุ่นปัง มาก มองกี่ที มองกี่ปี ก็สวยไม่สร่าง นอกจากจะหน้าเด็ก ผิวดีหุ่นยังปังอีกต่างหาก ซึ่งเธอบอกซีเคร็ทเคล็ดลับกับ ‘แพรวดอทคอม’ ว่า “เรื่องความสวยความงามของผู้หญิงก็เหมือนเงินฝากในธนาคาร ถ้ารู้จักเก็บออมเงินตั้งแต่เด็ก เราก็จะมีดอกเบี้ยสะสมเยอะกว่าคนที่เริ่มออมเงินช้ากว่าเรา:)) “นุสเชื่อว่าตอนอายุ 20 ปี หลายคนคงยังเที่ยวเล่นหลงระเริง เพราะทุกคนยังสวยเปล่งปลั่ง ไม่ค่อยได้คิดว่าอนาคตจะเป็นอย่างไร นุสโชคดีที่คิดได้ตรงนี้ เพราะแม่พูดกับนุสทุกวันว่า –‘ให้ทาครีมกันแดด ทายาสิว ทาหน้าหน่อย หน้าแห้งหมดแล้ว ถ้าต่อไปอายุยี่สิบแล้วไม่หัดดูแลตัวเอง คอยดูเถอะ อายุสี่สิบแต่หน้าเหมือนหกสิบ’ เป็นคำที่แม่พูดขู่นุสทุกวันตั้งแต่อายุสิบห้า เพราะตอนเป็นเด็ก เราเล่นเหมือนเด็กผู้ชาย ชอบเล่นกีฬาตากแดดตากลมไปเรื่อย ส่วนแม่รักสวยรักงาม ชอบออกกำลังกาย หมั่นดูแลตัวเอง” ทุกวันนี้นุสบาจึงเน้นเรื่องการออกกำลังกายและดูแลผิวพรรณตัวเองเป็นหลัก มีทั้งฝึกยืดเหยียดด้วยการทำโยคะที่บ้าน เล่นกีฬาขี่ม้าที่ฝึกมาตั้งแต่เด็ก รวมถึงเล่นเทนนิส สควอช เข้าฟิตเนสเล่นเวทเทรนนิ่ง เพราะเมื่อทำคาร์ดิโอเพื่อเบิร์นไขมันแล้ว ต้องบิลท์ให้กล้ามเนื้อแข็งแรงด้วย “ตั้งแต่เด็กแล้ว ที่นุสเห็นคุณพ่อเล่นโยคะ คุณแม่เต้นแอโรบิกทุกเช้า ทำให้นุสกับน้องสาวมีนิสัยและวินัย คือ ชอบออกกำลังกายทุกเช้า ไม่ได้อยู่ดีๆ เพิ่งมาทำตามกระแส หรือเพิ่งเริ่มต้น แต่สั่งสมมาตั้งแต่ตอนมีเรี่ยวแรง […]

เอาใจหนุ่มสาวออฟฟิศคนเมือง ที่มีอาการออฟฟิศซินโดรม เกร็งและตึงของกล้ามเนื้อบริเวณบ่า คอ ไหล่ หรืออาการตึงล้าของกล้ามเนื้อดวงตาเนื่องจากการมองคอมพิวเตอร์ หรือจอมือถือตลอดทั้งวัน รวมถึงความเครียดต่างๆ จากการทำงาน โดย ปัญญ์ปุริ ได้จัดกิจกรรมเอ็กซ์คลูซีฟอย่าง โยคะนวดบำบัด บรรเทาออฟฟิศซินโดรม (Therapeutic Yoga for Office Syndrome) การผสมผสานระหว่างหฐโยคะและการนวดบำบัด เพื่อช่วยให้ผ่อนคลายร่างกาย ลดอาการตึงล้าของกล้ามเนื้อ สอนโดย “ครูแนน” วริษา สุทธิกุลพานิช ครูโยคะผู้เปี่ยมประสบการณ์ที่ได้รับการรับรองและผ่านการฝึกสอนโยคะจากสหรัฐอเมริกา และเป็นเจ้าของผลงานหนังสือโยคะสำหรับนักวิ่ง โดยได้ผสมผสานการฝึกโยคะท่าต่างๆ เข้ากับเทคนิคการนวดแผนไทย เน้นการดูแลสุขภาพแบบองค์รวมผ่านโปรแกรมต่างๆ มากมาย เพื่อผ่อนคลายอาการต่างๆ ปรับโครงสร้างร่างกาย และสร้างความผ่อนคลายเพื่อลดอาการออฟฟิศซินโดรม เพื่อช่วยให้ผู้ที่ทำงานออฟฟิศรู้สึกผ่อนคลาย อารมณ์สดใส และมีชีวิตที่มีความสมดุลยิ่งขึ้น รวมทั้งมีโปรแกรมนวด Office Therapy Deep Muscle Relief Massage ออกแบบมาเพื่อแคมเปญนี้โดยเฉพาะ โดยใช้เทคนิคการนวดแบบการยืดเหยียดในการเล่นกีฬา เพื่อการผ่อนคลายกล้ามเนื้อที่ล้ำลึก ทำให้รู้สึกสดชื่น และมีพลังชีวิตมากขึ้น โยคะบำบัด เน้นบรรเทาอาการออฟฟิศซินโดรม ผสานระหว่างหฐโยคะและการนวด เพราะคงปฎิเสธไม่ได้ว่า ปัจจุบันคนวัยทำงานที่นั่งหน้าจอคอมพิวเตอร์ใช้เครื่องมือสื่อสารอย่างสมาร์ทโฟนเป็นเวลานานๆ ทำให้หลายคนมีอาการปวดเมื่อยตึงตามบริเวณคอ […]

กีฬาแนวใหม่ พลาดได้ไง อ่อนช้อย แต่สตรอง เบิร์นได้ถึง 1,200 Cal กีฬาแนวใหม่ พลาดได้ไง สำหรับสาวๆ หลายคนที่มัวแต่ก้มหน้าก้มตาคาดิโอ้เบิร์นไขมันออกจากร่าง ตัวผอมรีนจริง แต่ปัญหาคือ กล้ามเนื้อเหลว บางคนอาจมีอาการปวดเข่า เพราะหน้าขาไม่มีกล้ามเนื้อมาช่วยซัพพอร์ต อะพินพยายามลองเล่นกีฬาที่หลากหลาย จนได้มาเจอกีฬาแนวใหม่นี้ที่มีการนำศาสตร์ของบัลเล่ย์เข้ามาผสมผสานกับการออกกำลังแบบคาดิโอ้ ตอบโจทย์อะพินตรงที่รู้สึกเมื่อยกล้ามเนื้อ โดนจุด เล่นแล้วฟิน ซึ่งตอนนี้มีสตูดิโอ และฟิตเนสบางแห่งได้นำเข้ามาเผยเเพร่แล้ว ตามไปดูรีวิวคลาสของแต่ละที่กันเลย     Piloxing Barre @ Gaya Private Studio สตูดิโอแห่งนี้ถูกดัดแปลงมาจากบ้าน ออกแบบตกแต่งได้น่ารัก บรรยากาศสบายๆ ดูเป็นกันเองมากๆ โดยเจ้าของคือคุณใจปลื้ม วงศ์เจริญ ตั้งใจเปิดเป็นคลาสเล็กๆ เพื่อให้นักเรียนได้คุณภาพมากที่สุด ครูดูแลทั่วถึง แต่ที่น่าสนใจของที่นี่คือ คลาสออกกำลังกายใหม่แกะกล่องแห่งแรก แห่งเดียวในประเทศไทยชื่อว่า ‘Piloxing Barre’ (พิล็อคซิ่ง บาร์) โดยมี ครูกานต์ จันทร์จิรา คงทน Piloxing Master Trainee […]

หยุดอ้างว่าไม่มีเวลา ยิ่งไลฟ์สไตล์คนรุ่นใหม่เดี่ยวนี้ เอะอะก็ยุ่ง เอะอะก็ไม่มีเวลาออกกำลังกายรักษาหุ่นและสุขภาพ แต่มีเวลาไปแฮ้งเอ้าท์ซะงั้น ฉะนั้นวันนี้ แพรวดอทคอม อยากให้สาวๆ สละเวลาอันน้อยนิดในตอนเช้าหลังตื่นนอนแค่วันละ  10 – 15 นาทีเท่านั้น และไม่ต้องอ้างว่าไม่ชุดออกกำลังกาย ไม่มีเบาะ นั่นนู่นนี่ เพราะสามารถบริหารร่างกายบนเตียงนอนได้เลยจ๊ะ โดยจะโฟกัสที่กล้ามเนื้อแกนกลางลำตัวเป็นหลัก ใช้เวลาไม่มาก แต่ผลลัพธ์คุ้มค่าแน่นอนค่ะ ตามนี้

หยินโยคะ7ท่าพื้นฐานจัดว่าเด็ด! ท่าง่ายๆ แต่ได้ประโยชน์มหาศาล หยินโยคะ7ท่าพื้นฐานจัดว่าเด็ด! …ไหนๆ วันก่อนอะพินพูดถึงทฤษฎีของหยินโยคะกันไปแล้ว วันนี้ขอลงมือฝึกจริงจัง คลาสหนึ่งเห็นว่าท่าไม่เยอะ ด้วยความที่เคยเล่นโยคะมาบ้างก็แอบคิดว่า สบ๊าย ชิลล์… แต่ผิดคาด เพราะเล่นแล้วรู้เลยว่ามีปัญหาเวลาอยู่ในท่าแล้วตัวไม่กราวน์… (ไม่กราวน์คืออะไร เดี๋ยวบอก) ฟอร์มของท่าก็ว่าใช่แล้ว แต่การถ่ายเทน้ำหนักกลับไม่ใช่ บอกเลยว่าเป็นท่าง่ายๆ ดูเหมือนไม่มีอะไร แต่มีดีเทลลึกๆ อยู่เต็มไปหมด เป็นยังไงตามอะพินไปฝึกกันเลย เริ่มจากท่าเด็กหมอบ หรือ Child Post คนที่เล่นโยคะทั่วๆ ไป ส่วนมากเวลาทำท่านี้จะเคยชินกับการเอาศีรษะติดพื้น น้ำหนักทิ้งอยู่ที่ศีรษะ ตัวกับหน้าขาแนบติดกัน แล้วก้นจะลอย แต่การทำท่าเด็กหมอบแบบหยินนั้นตรงกันข้าม เพราะเวลาหายใจเข้าต้องให้รู้สึกถึงสะบักกระเพื่อมแล้วค่อยคลายหลังออก นั่นคือต้องผ่อนคลายช่วงหลังแล้วแผ่ออกให้ได้มากที่สุด สิ่งสำคัญเวลาทำท่านี้คือ ตอนหายใจออกให้ดึงหน้าท้องพ้นจากหน้าขาจนมีช่องว่าง กระดูกเชิงกรานไม่กดลงตรงหน้าขา แล้วค่อยๆ ถอยไปทางด้านหลัง จนรู้สึกว่าก้นเริ่มแน่น ทุกการหายใจออกจะต้องดึงสะดือกลับแล้วถ่ายน้ำหนักตัวถอยกลับไปที่ก้นเพิ่มขึ้น ค่อยๆ กดหน้าแข้ง กดหลังเท้าลงที่พื้นมากขึ้น จะช่วยทำให้ก้นติดส้นเท้ามากขึ้น ค้างท่าไว้ประมาณ 3 นาที ท่านี้จะช่วยทำให้พังผืดที่หลังทั้งหมดโดนยืด บอกเลยว่าจี๊ดมาก ใครปวดตึงหลังเเนะนำว่าควรทำ จบท่านี้จะรู้สึกเบาสบายมาก

‘หยินโยคะ’ท่าง่ายปลดล็อคความปวดเมื่อย ได้ผ่อนคลายระดับลึก ดีงามมากๆ ‘หยินโยคะ’ท่าง่ายปลดล็อคความปวดเมื่อย ได้ถึงขั้นสุด นี่ไม่ได้พูดเกินจริงเลยนะ เอาเป็นว่าปวดใจคงต้องรักษาเอง…แต่ถ้าปวดกาย อะพินมีทางออกมาบอก เพราะเจอมากับตัว ด้วยความที่มีปัญหาเรื่องปวดหลัง คอ บ่า ไหล่นี่ไปหมดเลยเวลาที่ต้องนั่งทำงานนานๆ แต่สายเฮลตี้อย่างเราหยิ่งไม่ขอพึ่งยา เลยต้องแสวงหาการบำบัด และฟื้นฟูร่างกายด้วยวิถีแห่งธรรมชาติ หันไปเล่นโยคะซะเลย ซึ่งตลอดปีกว่าที่ผ่านมาก็คิดว่าได้เหยียดยืด ลดอาการปวดลงได้ในระดับหนึ่ง ทว่าพรหมลิขิตก็นำพาให้ได้มารู้จักกับ ‘หยินโยคะ’ ทำให้มุมมองการเล่นโยคะของอะพินเปลี่ยนไป เป็นอะไรที่แบบ…ช้าๆ เนิบๆ แต่ได้ผลเกินคาดจริงๆ วันนี้มีนัดฝึกกับคุณอ้อม ครูสอนหยินโยคะ ที่อุตส่าห์มาสอนอะพินแบบตัวต่อตัว ระหว่างที่เล่นรู้สึกได้ถึงความแตกต่างตรงที่ปกติโยคะทั่วไปจะค้างท่าอยู่ประมาณ 4-5 ลมหายใจ ค่อนข้างโฟล เน้นการเหยียดยืดกล้ามเนื้อ ต้องบอกก่อนว่ากล้ามเนื้อเรามีลักษณะเหมือนหนังยาง พอยืดเสร็จก็จะเด้งกลับสู่สภาพปกติค่อนข้างไว ดังนั้นถ้าอยากยืดหยุ่นได้ดีต้องทำซ้ำๆ แรกๆ เป็นช่วงวัดใจกันเลยว่าจะไปสายโยคะต่อ หรือยอมถอย เพราะมีอาการเจ็บกล้ามเนื้อกันทุกคน ในขณะที่หยินโยคะจะค้างอยู่ในแต่ละท่านาน 3-5 นาทีเลยทีเดียว ที่ต้องค้างนานขนาดนั้น เพราะเราไม่ได้ต้องการยืดแค่กล้ามเนื้อ แต่ยืดกันถึงระดับเนื้อเยื้อ หรือพังผืดกันเลยจ้า