กลิ่นกาสะลอง

เข้าวงการบันเทิงมาตั้งแต่อายุ 5 ขวบ แถมยังมีฝีไม้ลายมือทางการแสดงที่ไม่ธรรมดาอีกด้วยสำหรับ ดาราเด็ก อันดา-กุลฑีรา ยอดช่าง นักแสดงรุ่นเล็กที่เคยตีบทแตกกระจุยจากบท “น้องเมย์” ในละครเรื่อง “พรพรหมอลเวง” และ “บัวเกี๋ยง” จากเรื่อง “กลิ่นกาสะลอง” ปัจจุบันน้องอันดามีอายุ 14 ปีแล้ว และเธอยังคงรับงานแสดงอย่างต่อเนื่อง โดยเมื่อไม่นานมานี้เธอเพิ่งร่วมบวงสรวงละครเรื่องล่าสุดไปกับเรื่อง “ยมทูตกับภูตสาว” ค่ายเลิฟดราม่า ของผู้จัด “วรายุฑ มิลินทจินดา” อย่างไรก็ตามล่าสุดในงานหมั้นและแต่งงานของผู้บริหารและผู้จัด “ตู่-ปิยวดี มาลีนนท์” และนักแสดงหนุ่ม “วิน-มาวิน ทวีผล” น้องอันดาได้มาร่วมงานนี้ในฐานะเพื่อนเจ้าสาว ซึ่งจากที่เห็นเธอเติบโตขึ้นมากๆ  โดยเฉพาะอย่างยิ่งภาพหมู่กับบรรดานางเอกรุ่นพี่ “คิมเบอร์ลี แอน เทียมศิริ”, “เต้ย-จรินทร์พร จุนเกียรติ”และ “ธัญชนก กู๊ด” บอกได้เลยว่าสวยสูสีเลยทีเดียว ดาราเด็ก อันดา-กุลฑีรา ในงานแต่งงานของ ตู่-ปิยวดี และ วิน-มาวิน นักแสดงเด็ก อันดา-กุลฑีรา สวยสะพรั่งในวัน 14 ปี  สามารถติดตามอ่านบทความอื่นๆ เพิ่มเติมได้ที่นี่ สวยสะอาดตา ‘ตู่ […]

ซ้องปีบยังต้องยอมก้มกราบ ‘แม่หญิงสุดาวดี’ รับบทโดย แคร์-ฉัตรฑริกา ที่นอกจากในละครจะสวยแบบผู้ดีแล้ว ลุคนอกจอก็มีเสน่ห์ชวนมองไม่แพ้กัน ถูกใจคนดูเลยทีเดียว สำหรับกลิ่นกาสะลอง ตอนที่ 13 เพราะเล่นเอาซ้องปีบเสียศูนย์ไปหลายฉาก ซึ่งหนึ่งในฉากที่ผู้ชมพูดถึงกันไม่น้อยก็คือ ฉากซ้องปีบเดินกาดและเจออ้ายน้อยจั๋นควงมากับแม่หญิงคนใหม่ จนเกิดเรื่องเกิดราวตบตีกันกลางตลาด รวมถึงฉากก้มกราบขอโทษ นอกจากจะเป็นซีนที่ซ้องปีบเสียหน้าและพ่ายแพ้จนหมดรูปแล้ว คู่หมั้นคนใหม่ของอ้ายน้อยจั๋นก็ถูกโฟกัสเช่นกัน ด้วยลุคสวยสง่าน่ามอง ทำให้ใครหลายคนอยากจะรู้จักเธอคนนี้มากขึ้น โดยคนที่มารับบท แม่หญิงสุดาวดี ผู้เชือดซ้องปีบแบบนิ่มๆ ด้วยประโยคที่ว่า “พฤติกรรมของเธอขาดสติ คล้ายคนวิกลจริต ฉันจึงไม่ควรถือโทษโกรธเธอหรอกซ้องปีบ” คือ แคร์-ฉัตรฑริกา สิทธิพรม นักแสดงวัย 25 ปี เธอเข้าสู่วงการจากการประกวดมิสไทยแลนด์เวิลด์ 2014 หากใครเป็นแฟนละครช่องสามคงคุ้นหน้าคุ้นตาสาวคนนี้เป็นอย่างดี เพราะเธอจองละครหลังข่าวทั้ง 7 วัน ตั้งแต่เรื่องลับลวงใจ หนี้รักในกรงไฟ และล่าสุดก็มาปรากฏตัวในกลิ่นกาสะลอง เรียกได้ว่าเป็นนักแสดงที่คิวแน่นจริงๆ เล่นแต่ละเรื่องฟีดแบ็คจากคนดูต่างก็ชื่นชอบ นอกจากในจอจะสวยมีเสน่ห์ จนแฟนละครหลงแล้ว นอกจอสาวคนนี้ก็ดูดีทุกลุค สไตล์ไหนก็เลิศ ไม่ว่าจะหวาน จะเปรี้ยว หรือเท่ สาวแคร์ก็เอาอยู่ เป็นผู้หญิงที่สวยแบบไม่ต้องปรุงแต่งเยอะ มองมุมไหนก็ไม่น่าเบื่อจริงๆ งามแต้งามว่า เปิดลุค […]

“ฝ้าย-นันทนัช โล่ห์สุวรรณ” หรือ อีเหมย กลายเป็นทอล์คออฟเดอะทาวน์ภายหลังอวดรักแร้ขาวจั๊วะ ขโมยซีนในละคร “กลิ่นกาสะลอง” ได้กระแสแรงไม่แพ้นักแสดงหลักเลยสำหรับ “ฝ้าย-นันทนัช โล่ห์สุวรรณ” ดาวรุ่งของช่อง 3 ที่รับบทบาทเป็น อีเหมย คนรับใช้ของ “ซ้องปีบ” ในละครเรื่อง “กลิ่นกาสะลอง” โดยใน EP.12 “เหมย” และ “มั่นฟ้า” ถูกจับจึงโดน “ซ้องปีบ” ทำโทษด้วยการจับแขวนและทำร้ายร่างกาย ซึ่งระหว่างที่ “มั่นฟ้า” ปะทะฝีปากกับ “ซ้องปีบ” กล้องยังจับไปที่ “เหมย” ซึ่งเป็นผู้ร่วมขบวนการ แต่ปรากฏว่าฉากดราม่านี้ถูกขโมยซีนด้วยวงแขนอันขาวของ “เหมย” จนกลายเป็นกระแสในโลกโซเชียล ซึ่งงานนี้เจ้าตัวก็ได้แต่ขำๆ กับกระแสดังกล่าว ทั้งนี้ “ฝ้าย-นันทนัช” ได้เปิดเผยเคล็ดลับเกี่ยวกับการดูแลผิวใต้วงแขนว่า “เอาจริงๆ คือไม่ได้คิดว่าวงแขนเราขาวอะไรขนาดนั้น ฝ้ายให้คุณหมอดูแลเลยค่ะ 555 ด้วยเลเซอร์ อันนี้แนะนำดีที่สุด เพราะปกติเราจะถอนกับโกนกันเยอะ ทำให้ผิวหนังเกิดการเสียดสี รูขุมขนอักเสบ เลยทำให้รักแร้ดำ เป็นหนังไก่ แล้วก็ใช้โรออนอะไรก็ได้ที่ไม่มีส่วนผสมของแอลกอฮอล์ ถ้าหากมีไวเทนนิ่งกับสารที่ลดการเกิดขนก็จะดีมากๆ ค่ะ” […]

พาส่องแฟชั่นสไตล์ ‘น้องอันดา’ หรือ ‘บัวเกี๋ยง’ จากละครเรื่องดังกลิ่นกาสะลอง สวยใสทุกลุค น่ารักสมวัยกำลังดี อายุเพียง 13 ปี ก็ฉายแววนางเอกออกมาแล้ว เข้มข้นขึ้นทุกตอนสำหรับละครพีเรียดที่กำลังเป็นกระแสมากที่สุดในขณะนี้อย่าง กลิ่นกาสะลอง ซึ่งดำเนินเรื่องมาถึงตอนที่ 9 แล้ว เชื่อว่าเมื่อค่ำคืนที่ผ่านมา (8 ก.ค. 62) มีหลายฉากที่ผู้ชมต้องคอยลุ้นและแอบเสียน้ำตา หนึ่งในนั้นก็คือฉากการปะทะกันระหว่างอี่นายซ้องปีบและบัวเกี๋ยง จนละอ่อนน้อยเลือดกบปาก ถือเป็นอีกซีนที่ถูกพูดถึงไม่น้อย โดยเฉพาะตัวนักแสดงอย่างบัวเกี๋ยง รับบทโดย น้องอันดา-กุลฑีรา ยอดช่าง สามารถเล่นออกมาได้สมบทบาท จนแฟนละครพากันชื่นชมว่าด้วยหน้าตาที่สะสวยและฝีมือดีขนาดนี้ ถ้าหากโตขึ้นตำแหน่งนางเอกคงไม่หนีไปไหนแน่นอน แต่ก่อนที่จะขึ้นแท่นเป็นนางเอกเต็มตัว เรามารู้จักน้องอันดาในวัย 13 ปีกันก่อน นอกจากผลงานการแสดงที่ไม่ธรรมดาแล้ว การแต่งตัวและสไตล์ก็น่ารักไม่เบา และจากที่ส่องอินสตาแกรมน้องมาพักใหญ่ก็เห็นว่ายีนส์เป็นไอเท็มที่น้องอันดาเลิฟมากจริงๆ หยิบออกมาใส่บ่อยมาก หรือจะแต่งแนวหวานๆ ก็เข้าตา วันนี้แพรวดอทคอมเลยคัด 10 ลุคน่ารักสไตล์น้องอันดามาฝากแฟนละครกันด้วยค่ะ ว่าที่นางเอกคนต่อไป ‘น้องอันดา’ หรือ ‘บัวเกี๋ยง’ กับ 10 ลุคนอกจอ น่ารักสมวัย บทความอื่นๆ ที่น่าสนใจ แฟชั่นที่ถูกแบน! […]

เผยที่มา ผมทรงอี่ปุ่น หรือ ผมทรงญี่ปุ่นของ ซ้องปีบ จากละครเรื่อง กลิ่นกาสะลอง ทรงผมที่เจ้าดารารัศมี ทรงได้ต้นแบบการเกล้าเกศาจาก ภริยาท่านทูตญี่ปุ่น เป็นลูกรักพ่อ เสื้อผ้าต้องเด่นกว่าปี้สาวแล้ว หน้าผมก็ต้องงามปะล้ำ ปะเหลือ งามจ๊าดนัก กว่าใครเพื่อนด้วย ซึ่งทรงผมที่ซ้องปีบสั่งให้สาวใช้อย่าง เหมยทำเพื่อไปงานสำคัญต่างๆ หรือเดินอวดโฉมให้หนุ่มๆ ในกาด (ตลาด) พากันตะลึงคือ “ผมทรงอี่ปุ่น” ตามที่กล่าวไปข่างต้นว่า ผมทรงอี่ปุ่น นั้นเจ้าดารารัศมี เจ้าหญิงในราชวงศ์ทิพย์จักรจากนครเชียงใหม่ ผู้มีบทบาทสำคัญต่อการรวมล้านนาเข้ากับสยาม โดยการถวายตัวเป็นบาทบริจาริกาในพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว และยังทรงฟื้นฟูศิลปวัฒนธรรมล้านนา พระองค์ทรงได้รับวัฒนธรรมการเกล้าเกศานี้มาจาก ภริยาท่านทูตญี่ปุ่น ที่ติดตามสามีเข้ามาในพระบรมมหาราชวัง ซึ่งครูณัฐฏพัฒน์สอนศิลปะ ได้บรรยายไว้ถึงเหตุการณ์ประวัติศาสตร์นี้ โดยคุณแทน t_2539 ได้นำมาเผยแพร่ว่า จากญี่ปุ่นสู่ล้านนา เจ้าดารารัศมีก็ยังคงไว้ซึ่งอัตลักษณ์ล้านนาของพระองค์ไว้อย่างไม่ขาดตกบกพร่องถึงแม้จะมาอยู่ในพระบรมมหาราชวังแล้ว เห็นได้จากภาพถ่ายของพระองค์กับเหล่าข้าหลวงล้านนาที่ไว้ผมยาวตามประเพณี แตกต่างจากพระราชวงศ์และข้าราชสำนักตำหนักอื่นๆ ถึงแม้ในช่วงรัชกาลที่ 5 จะมีความนิยมไว้ผมยาวอย่างตะวันตกแล้วแต่ทรงผมสั้นแล้วหวีเสยไปข้างหลังที่เรียกว่าทรงดอกกระทุ่มก็ยังเป็นที่นิยมในราชสำนักฝ่ายในมากกว่า มีเรื่องเล่าว่า พระราชชายา เจ้าดารารัศมีได้เห็นทรงผมภริยาท่านทูตญี่ปุ่นที่ติดตามสามีเข้ามาในพระบรมมหาราชวัง จึงได้นำเอาทรงผมสตรีชาวญี่ปุ่นนั้นมาเป็นต้นแบบการเกล้าพระเกศาของพระองค์ท่าน และให้ข้าหลวงพระตำหนักของพระองค์ท่านทำทรงผมญี่ปุ่นนี้ทุกคน ในพระฉายาลักษณ์นี้พระเกศายาวของพระราชชายาฯ เกล้าขึ้นโดยใช้หมอนรอง โคนผมด้านหน้ายกสูงขึ้น เรียกว่าทรง ‘อี่ปุ่น’ ด้วยได้รับแบบแผนมาจากแดนอาทิตย์อุทัย ต่อมาผมทรงนี้ได้รับความนิยมแพร่หลายในแวดวงสังคมชั้นสูงยุค Edwardian และแผ่อิทธิพลมาถึงราชสำนักไทยด้วย น่าเศร้าที่ Victoria Sherrow กล่าวไว้ในหนังสือ […]

“แต่งตัวล้ำสมัยจนเกินหน้าแม่หญิงอื่น” จากประโยคนี้คงไม่ต้องสืบว่านายหมอทรัพย์หมายถึง ซ้องปีบ ในกลิ่นกาสะลอง วันนี้เราจะพามาหาคำตอบและที่มาของคอสตูมในเรื่องนี้ว่ามีความพิเศษอย่างไร  เดินทางมาถึงตอนที่ 5 แล้วสำหรับละครพีเรียดเรื่องดัง กลิ่นกาสะลอง นอกจากหลายคนต่างลุ้นให้นายหมอทรัพย์รู้ความจริงสักทีว่าผู้หญิงที่ตัวเองแอบรักมีฝาแฝด อีกหนึ่งความน่าสนใจที่โลกออนไลน์พูดถึงกันไม่น้อย ก็คือการแต่งตัวจัดเต็มของซ้องปีบ ที่ไม่ว่าจะออกมาฉากไหน เสื้อผ้า หน้าผมเป๊ะไปหมด ทั้งปิ่นปักผม ผ้าลูกไม้ ซิ่นผ้าไหม เครื่องแต่งกายสไตล์ยุโรป ในขณะที่กาสะลองนุ่งเพียงผ้าซิ่นฝ้าย เห็นทีจะมีฉากเมื่อคืนก่อนนำขบวนฟ้อนรำเท่านั้น ที่กาสะลองจะแต่งองค์ทรงเครื่องจนสวยผิดหูผิดตา โดยผู้กำกับการแสดง สันต์ ศรีแก้วหล่อ ได้ให้สัมภาษณ์เกี่ยวกับเสื้อผ้าของกาสะลองและซ้องปีบ ผ่านทางรายการเปิดกองวิก 3 ว่า “ได้มีการรีเสิร์ชและคุยกับทางคอสตูม เนื่องจากซ้องปีบเป็นลูกรักของพ่อ มีความเป็นแฟชั่นกว่ากาสะลอง เพราะฉะนั้นเนื้อผ้าเลยถูกทำให้มีสีสันฉูดฉาด มีรูปแบบของตะวันตก ของฝรั่งเข้ามาเยอะหน่อย มันเลยต่างกันออกไป ส่วนกาสะลองก็จะบ้านๆ เป็นชาวบ้านๆ และองค์รวมทั้งหมดมันคือเรื่องของชาวบ้าน เสื้อผ้าเลยจะไม่หวือหวา ไม่วิจิตรอะไรมากนัก มันก็จะแฟชั่นเท่าที่ลูกสาวกำนันจะเป็นได้ ส่วนการแต่งหน้าทำผมก็ออกแบบให้ธรรมชาติมากขึ้น” ซึ่งการแต่งกายของชาวเชียงใหม่ในช่วงรัชกาลที่ 5-6 (มณฑลพายัพ) ผู้หญิงสามัญชนชาวเชียงใหม่ในช่วงแรกของยุคนี้ยังมีลักษณะคล้ายคลึงกับการแต่งกายตามแบบจารีต กล่าวคือนิยมไว้ผมยาว รวบไว้เป็นมวยเหนือท้ายทอย บางครั้งมีการ “อั่วช้อง” คือการสอด “ช้อง” หรือเส้นผมปลอมเพิ่มเข้าไปกับผมจริง เพื่อให้เป็นมวยขนาดใหญ่ […]

ออกอากาศไปแค่ไม่กี่ตอน แต่ตอนนี้ละครเรื่อง กลิ่นกาสะลอง กำลังเข้มข้น ได้กระแสตอบรับจากแฟนละครอย่างล้นหลาม และกระแสแรงจนสาวๆ อู้กำเมืองตามกันจนลื่นหูเลย แถมบทนางเอกที่ ญาญ่า – อุรัสยา เสปอร์บันด์ ต้องเล่นเป็นฝาแฝดอี๋นายกาสะลอง และอี๋นายซ้องปีบ แถมยังมีพาร์ทปัจจุบันที่ต้องรับบท พริมพี่ หรือ พิมพ์พิศา แต่มีวิญญาณของ กาสะลอง ตามมาหลอนด้วยนั้น จำเป็นต้องมีสแตนอินเข้าฉากร่วมด้วย ซึ่งแอบกระซิบว่าคนที่มาเล่นเป็นสแตนอินฝาแฝดให้สาวญาญ่านั้น ตัวจริงเห็นหน้าแล้วน่าฮักขนาด งามแต้ๆ งามว่า งามปะล้ำปะเหลือเลยเจ้า คนนั้นๆ คือ “น้องฝ้าย – สุพรรณิการ์ จำเริญชัย” นั่นเอง ซึ่งเธอเป็นแฟนคลับของสาวญาญ่ามาก่อน เรียกได้ว่าเป็นโอกาสที่ดีจากแฟนคลับสู่สแตนอิน แถมยังมีบทของตัวเองในละครเรื่องนี้อีกด้วย วันนี้ แพรวดอทคอม เลยจะพาไปทำความรู้จักสาวสวยคนนี้กัน “น้องฝ้าย – สุพรรณิการ์ จำเริญชัย” เธอเป็นนักศึกษาสาวจากรั้วมหาวิทยาลัยรัตนบัณฑิต แถมมีดีกรีรองอันดับ 1 มิสแกรนด์ร้อยเอ็ด อีกด้วย ซึ่งน้องฝ้ายได้โพสต์ภาพความประทับใจ พร้อมข้อความขณะเข้าฉากกับนางเอกสาวญาญ่า ผ่านเฟซบุ๊คส่วนตัวด้วยว่า “ดีใจมากที่ได้เป็นส่วนหนึ่งของละครเรื่องนี้ หนูทำเต็มที่เเละพัฒนาตัวเองอยู่ตลอดเวลาโดยการดูเเละจำฝีมือการเเสดงจากพี่ญาญ่าเเละนักเเสดงทุกท่าน นำสิ่งที่พี่ญ่าเเนะนำมาทำตามเเละปรับเปลี่ยนตัวเองค่ะ” “สุดท้ายขอขอบคุณผู้ใหญ่ทุกคนนะคะที่ให้โอกาสหนูได้พัฒนาตัวเองค่ะ เป็นของขวัญชิ้นใหญ่ที่สุดของหนูที่ได้รับโอกาสนี้ค่ะ สเเตนอินพี่ญาญ่าเเละรับบทเกตุเเก้ว” เมื่อแฟนๆ ละครเรื่องนี้ […]

นักแสดงเด็ก “น้องอันดา-กุลฑีรา ยอดช่าง” กลับมาเป็นที่ชื่นชมของแฟนละครอีกครั้ง ภายหลังสวมบทบาทเป็น บัวเกี๋ยง ในละครเรื่อง “กลิ่นกาสะลอง” ถึงจะเป็นนักแสดงเด็กที่มีอายุเพียง 13 ปี แต่สำหรับงานการแสดงนั้นก็ต้องถือว่าเธอมีประสบการณ์ไม่น้อย สำหรับ “น้องอันดา-กุลฑีรา ยอดช่าง” ดาราเด็กที่แจ้งเกิดตั้งแต่วัยเพียง 5 ขวบ จากบท “น้องเมย์” ในละครเรื่อง “พรพรหมอลเวง” และล่าสุดเธอได้มีผลงานใหม่ออกมาให้แฟนคลับได้ติดตามกับเรื่อง “กลิ่นกาสะลอง”ออกอากาศทางช่อง 3 “กลิ่นกาสะลอง” ได้รับกระแสตอบรับจากผู้ชมดีมากๆ เนื้อเรื่องที่เข้มข้น ภาพที่ละเมียดละไม รวมถึงนักแสดงเต็มที่สุดๆ ทุกคนไม่ว่าจะเป็นรุ่นเล็กหรือรุ่นใหญ่ ซึ่งหนึ่งในดาวรุ่นเล็กที่ได้รับเสียงชื่นชมจากแฟนละครมากๆ  ก็คือผู้ที่รับบทเป็น บัวเกี๋ยง แสดงโดย “น้องอันดา” “น้องอันดา” เปิดเผยว่าแม้จะฝึกฝีมือทางการแสดงในวงการมา 8 ปี แต่สาวน้อยบอกว่าสิ่งที่ยากที่สุดในการแสดงเรื่องนี้ก็คือ การที่ต้องพูดภาษาเหนือ เพราะไม่ใช่ภาษาที่เธอใช้ในปกติชีวิตประจำวัน สำหรับบทของ“บัวเกี๋ยง” แสดงโดยนักแสดง 2 คน ในวัยเด็กนั้นรับบทโดย “น้องอันดา-กุลฑีรา ยอดช่าง” เด็กสาวกำพร้าบ่าวในบ้านที่จงรักภักดีกับ “กาสะลอง” และเป็นคนเชื่อมความสัมพันธ์ระหว่าง “หมอทรัพย์” และ“กาสะลอง” […]

กลิ่นกาสะลอง โศกนาฏกรรมความรักสามเส้าข้ามภพข้ามชาติ บ่วงกรรมผูกพันที่ต้องกลับชาติมาเกิดเพื่อรอการสะสางความแค้น ถือเป็นอีกหนึ่งละครที่มีแฟนคลับตั้งตารอชมกันมาก สำหรับเรื่อง กลิ่นกาสะลอง ละครแนวดราม่า-พีเรียด โดยค่ายฟีลกู้ด เอนเตอร์เตอร์เทนเมนต์ จำกัด ของผู้จัด “แหม่ม-ธิติมา สังขพิทักษ์” เรื่องราวของเรื่องราวโศกนาฏกรรมทางความรักข้ามภพข้ามชาติ ของหญิงสาวแสนอาภัพ เธอชื่อ “กาสะลอง” และชายอันเป็นที่รัก “หมอทรัพย์” ทั้งสองคนต้องตายจากกันแบบไม่สมหวัง ความจริงที่ทั้งคู่ไม่ได้รับรู้ก่อนตายจาก นี่คือปมปัญหาของการต้องกลับชาติมาเกิดเพื่อรอการสะสางและการตามหาอีกคนที่หายไป ในวังวนของความรัก ความแค้น และการอิจฉาริษยาอาฆาตของพี่น้องฝาแฝด “ซ้องปีบ” และ “กาสะลอง” ส่งผลเป็นห่วงโซ่กรรมติดตามกันมาเป็นกงเกวียนกงกรรมหลายภพหลายชาติ จนกว่าจะเจอเธออันเป็นที่รักร่วมภพร่วมชาติกันอีกครั้ง โดยงานนี้ “ญาญ่า-อุรัสยา เสปอร์บันด์” รับบทหนักหลากหลายคาแรกเตอร์ทำให้เธอต้องทำการบ้านมากเพื่อตีบทของตัวละครในแต่ละภพชาติ ทั้งคน และผี ต้องทำอย่างไรถึงจะทำให้คนดู ดูแล้วเกิดความต่างในบทบาทของ “กาสะลอง”, “ซ้องปีบ”, “พญ.พิมพ์พิศา (พิมพรี่)” โดยญาญ่าเปิดเผยว่า “ความยากของการแสดงในเรื่องนี้คือการที่ฝาแฝดกาสะลองกับ ซ้องปีบ และพิมพ์พิศาในภพปัจจุบัน เป็นอะไรที่ท้าทายเธอในฐานะนักแสดง โดยเฉพาะกาสะลองตอนที่เป็นผีไม่เหมือนกาสะลองตอนที่เป็นคนเลย และอีกเรื่องที่หนักคือเรื่องของภาษา ซึงเป็นภาษาเหนือเธอยอมรับว่าค่อนข้างยากแต่ก็พยายามถ่ายทอดออกมาให้ได้ดีที่สุด โชคดีที่ทางผู้จัดและผู้กำกับไม่ได้ลงลึกมาก แบบทุกคำคิดว่าคนทั่วไปฟังรู้เรื่องแน่นอน” ขณะที่ “เจมส์ มาร์” รับบท “หมอทรัพย์” และ “นพ.ทินกฤต” […]

แฟน ละครพีเรียด ‘บุพเพสันนิวาส’ คงจำคำกล่าวคุณพี่เดชที่สอนแม่การะเกดว่า “คนเราต้องรู้จักหักใจในสิ่งที่ควรหัก มัวแต่หมกมุ่นครุ่นคิดถึงสิ่งที่ผ่านเลยไปก็หาประโยชน์อันใดมิได้” นี้ได้ ซึ่งสามารถเอามาใช้กำกับอาการอาลัยอาวรณ์ของแฟนๆ ละครที่กำลังเป็นอยู่ตอนนี้ เพราะละครอวสานไปแล้วได้ด้วยหนา ปฏิเสธไม่ได้สิ่งที่ทำให้ ละครพีเรียด ‘บุพเพสันนิวาส’ ประสบความสำเร็จจนเกิดเป็นฟีเวอร์ถล่มทลายไปทั่วประเทศ ถึงกับถูกยกให้เป็น ละครแห่งสยามประเทศ ทั้งๆ ที่พล็อตหลักเรื่องการข้ามภพไปพบรักไม่ใช่สิ่งใหม่ ก็คือความที่บทประพันธ์ของ ‘รอมแพง’ ชิ้นนี้เพิ่งถูกนำมาสร้างเป็นละครครั้งแรก ลิสต์นี้แพรวจึงอาสาพาไปส่อง ละครพีเรียด ที่ยังไม่เคยผ่านการสร้างเป็นละครมาก่อน มาให้ชาวเราได้อัพเดทกัน หนึ่งด้าวฟ้าเดียว (ช่อง 3) คิวออนแอร์ : 25 เม.ย. 2561 (ต่อจาก ‘บุพเพสันนิวาส’) แนวละคร : พีเรียดโรแมนติก + อิงประวัติศาสตร์ ความน่าสนใจ : บทประพันธ์โดย ‘วรรณวรรธน์’ ผู้แต่งคนเดียวกับ ‘ข้าบดินทร์’ กล่าวถึงเรื่องราวของบุคคลสำคัญในสมัยกรุงศรีอยุธยาและกรุงธนบุรี โดยในเรื่องเป็นการอิงประวัติศาสตร์ทั้งด้านการรบ และความรักที่มีอุปสรรคจากความเข้าใจผิดว่าพระเอกเป็นขันที เรื่องย่อ : เรื่องราวของ ‘ขันทอง’ (รับบทโดย เจมส์ จิรายุ) ชายหนุ่มลูกเสี้ยวไทย-ตุรกี ที่มีใบหน้าสวยราวกับผู้หญิง […]