ไม่ต้องดังที่สุด แต่อยู่ได้ยาว! ‘จูน-เดือน-หมวย-ปูเป้’ อดีตสาวแพรว สวย เก่ง ต้นแบบสาวสตรอง

ดร.อริสรา กำธรเจริญ

รองสาวแพรว ปี 2539

“ก่อนมาประกวดหนุ่มสาวแพรว หมวยทำงานเป็นผู้ประกาศรายการสถานีโทรทัศน์ช่อง 9 อสมท ตั้งแต่เรียนปี 2 คณะวารสารศาสตร์และสื่อสารมวลชน มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ จนกระทั่งเรียนปี 4 เห็นเพื่อนๆ สมัครประกวดหนุ่มสาวแพรว จึงแอบแม่มาสมัครบ้าง ทั้งที่ดูเป็นเรื่องไกลตัวมาก

“แต่เพื่อนรุ่นพี่ที่ทำงานฝ่ายกิจกรรมพิเศษบอกว่าเวทีนี้ไม่ได้เลือกคนที่เป็นนางแบบมาก แต่ดูจากหลายอย่าง เราจึงคิดว่าเขาอาจพิจารณาจากการเรียน เพราะหมวยเรียนดี ปรากฏว่าเข้ารอบ 5 คนสุดท้าย โดยที่ไม่เคยคิดว่าจะได้ เพราะหมวยตัวเตี้ยที่สุด หน้าตาเรียบร้อย ติดจะเชยด้วยซ้ำ แต่ทุกคนก็สวยในแบบฉบับที่เป็นตัวของตัวเอง เวลาพี่ม้า (อรนภา) สอนเดินแบบก็เดินผิดๆ ถูกๆ ขนาดตอนเก็บตัวที่โรงแรมดุสิตธานี เห็นเพื่อนแว็กซ์ขนหน้าแข้ง เราไม่เคยทำ ขอลองทำดูบ้าง ปรากฏว่าแพ้น้ำยา ผื่นแดงเต็มขา ตกใจมาก ผ่านไปหนึ่งวันอาการหายไป ค่อยยังชั่ว

“จนตอนหลังถึงรู้ว่าคุณแม่แอบโทร.หาทีมงานประกวดหนุ่มสาวแพรว บอกให้ตัดหมวยออกจากการประกวด คนสมัยก่อนคิดว่าอาชีพแบบนี้เต้นกินรำกิน กลัวทำให้เสียการเรียน พอหมวยรู้เท่านั้นแหละ กลับถึงบ้านร้องไห้โฮเลย ต้องขอให้น้าชายช่วยพูดกับแม่ สัญญาว่าประกวดเวทีนี้เวทีเดียว ท่านถึงยอม ในที่สุดหมวยได้เป็นรองสาวแพรว รุ่นเดียวกับปูเป้ – รามาวดี รู้สึกตื่นเต้นมาก

ภาพ : @muayarisara

“จากนั้นชีวิตเปลี่ยนไปเลย ได้มีโอกาสแสดงละคร ทำงานพิธีกรรายการต่างๆ เป็นเวทีที่เปิดโอกาสให้คนรู้จักเรามากขึ้น โดยเฉพาะในสายงานสื่อสารมวลชน ซึ่งเราอยากทำอยู่แล้ว ต้องบอกว่าเวทีประกวดหนุ่มสาวแพรวเป็นเวทีที่แตกต่างจากการประกวดอื่นๆ เพราะคัดคนมีคุณภาพ การได้เป็นรองสาวแพรวเหมือนการการันตีคุณภาพตัวเอง ทำให้เราได้งานง่ายขึ้น ใครๆ ก็อยากประกวดเวทีนี้

“ปัจจุบันต้องบอกว่าหมวยได้มีโอกาสทำงานที่ชอบ คือ เป็นอาจารย์ประจำคณะวารสารศาสตร์และสื่อสารมวลชน มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ และอ่านข่าวเที่ยงช่อง 3 อสมท และเป็นพิธีกรรายการคลับมันตราทางช่อง 5 ทำให้เราสามารถนำประสบการณ์จากการทำงานไปถ่ายทอดให้นักศึกษาได้รับรู้

“ถ้าถามว่าหมวยดูแลตัวเองอย่างไร อาจเป็นคนโชคดีที่หน้าตาไม่ค่อยเปลี่ยนเท่าไหร่ ชอบที่มีคนทักว่าดูเหมือนเดิมเลย ถือเป็นกำลังใจอย่างหนึ่ง การที่เราต้องออกทีวี ทำให้ต้องดูแลตัวเองด้วยการออกกำลังกาย ทั้งวิ่ง เข้าฟิตเนส และว่ายน้ำ ที่สำคัญคือต้องนอนให้พอและนอนเป็นเวลา ตั้งแต่สี่ทุ่มถึงหกโมงเช้า ไม่ค่อยกินอาหารที่เป็นของมัน ของทอด ทาครีมบำรุงผิวทุกคืน เพราะการได้กลิ่นหอมเป็นอโรมาเทอราปีที่ให้ความสุขอย่างหนึ่ง และต้องสวดมนต์ก่อนนอนทุกคืน ช่วงไหนว้าวุ่นจะนั่งสมาธิ อยู่กับลมหายใจเข้า – ออก แม้จะมีความเครียด มีความกลัวและวิตกกังวล แต่ตอนนี้เริ่มปลง พยายามปล่อยวาง ตัดให้ได้ รวมทั้งไม่ดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ และไม่ดื่มกาแฟด้วย

“หมวยยอมรับว่าตัวเองอาจไม่ได้มีเป้าหมายอะไรยิ่งใหญ่ในชีวิต แต่ชอบทำงาน เมื่อได้รับมอบหมายงานอะไรมา จะทำให้เต็มที่ และมีความสุขกับผู้คนรอบข้าง บางทีนึกย้อนกลับไปว่าเรามาถึงจุดนี้ได้ ถือว่าเกินฝันแล้ว เดินไปไหนมาไหน คนจำเราได้ แค่นี้พอแล้วค่ะ”

Praew Recommend

keyboard_arrow_up