โดดเด่นท่ามกลางชุดนับร้อยบนเวที “หมู อาซาว่า” ปรัชญาและมุมมองที่รู้แล้วต้องทึ่ง!

การจะทำชุดให้ถูกจริตผู้หญิงสักคนไม่ใช่เรื่องง่าย ยิ่งการทำชุดให้ถูกใจคนทั้งประเทศยิ่งเป็นเรื่องท้าทายขั้นสุดของดีไซเนอร์

วันนี้ “แพรวดอทคอม” พาไปเจาะลึกผู้อยู่เบื้องหลังชุดสุดปังแบรนด์ Asava (อาซาว่า) ที่สาวงามตัวแทนประเทศไทยใช้สวมใส่บนเวทีประกวดระดับโลก “พลพัฒน์ อัศวะประภา” หรือที่ทุกคนรู้จักในนาม หมู อาซาว่า ครีเอทีฟไดเร็คเตอร์และผู้ก่อตั้งแบรนด์ Asava ผู้ปลุกปั้นชุดสไตล์เรียบโก้ แต่คงไว้ซึ่งความสง่างามไร้กาลเวลา ผ่านการตกผลึกทางความคิด ปรัชญาและมุมมองที่รู้แล้วต้องทึ่ง! 

“นิยามของอาซาว่า 3 คำที่เราใช้คือ Grace เราชื่นชมความงามที่สง่างาม คำว่าสง่างามไม่ได้ต้องหรูหราหรือราคาแพง แต่ความสง่างามของเราสะท้อนออกมาจากวิธีคิดที่ตกผลึก ที่เป็นหนึ่งเดียวกับตัวตนที่แท้จริง และความสง่าที่แท้จริงออกมาจากภายในของบุคคล ต่อมาคือ Authentic ความแน่แท้ เนื้อแท้ ความรู้จักตัวเอง รู้จักว่าฉันคือใคร อยากกินอยู่อย่างไร และอนาคตอยากเป็นยังไง นั่นเป็นสิ่งสำคัญ ผู้หญิงที่รู้จักตัวตนของตนเอง ว่าแท้จริงแล้วตนเองต้องการอะไร ไม่ได้ไปตามค่านิยมหรือไปตามความฝันที่คนอื่นยัดเยียดให้ สุดท้ายคือคำว่า Intelligence ไม่ได้หมายถึงฉลาด แต่หมายถึงความมีปัญญา ตกผลึกทางความคิด เห็นความงามที่มันมีมิติมากกว่าเรื่องฉาบฉวย ฉะนั้นผู้หญิงคนนี้น่าจะฉลาดที่จะเสพสิ่งต่างๆ และฉลาดที่จะใช้ชีวิต เช่นเดียวกับการแต่งตัว ก็คือเป็นผู้หญิงฉลาดที่จะเลือกสิ่งที่เหมาะกับตนเอง”

เสน่ห์ของชุดในแบบฉบับ Asava ที่ไม่วิ่งตามกระแสที่ฉาบฉวย
สู่การทำชุดสำหรับเวทีนางงามระดับโลก

“อันดับแรก ตั้งแต่เรารับทำชุดแนท (อนิพรณ์ เฉลิมบูรณะวงศ์ มิสยูนิเวิร์สไทยแลนด์ 2015 ) จนมาถึงชุดน้ำตาล (ชลิตา ส่วนเสน่ห์ มิสยูนิเวิร์สไทยแลนด์ 2016) สิ่งที่เราคุยกันกับกองประกวดคือ การนำเสนอภาพลักษณ์ของผู้หญิงไทย พูดถึงผู้หญิงไทยก่อน ไม่ใช่การประกวดด้วยซ้ำ ถ้าเราเปรียบมิสยูนิเวิร์สไทยแลนด์เป็นทูตทางวัฒนธรรม หน้าที่หนึ่งที่เขาควรจะมีก็คือ หน้าที่บอกคนทั่วโลกว่า ณ เวลานี้ความเป็นผู้หญิงไทยร่วมสมัยคืออะไร Mood And Tone ของประเทศไทย ณ เวลานี้คืออะไร ชุดควรจะแสดงถึงอารยธรรมของความเป็นไทย แสดงถึงคาแร็คเตอร์ของความเป็นคนไทย ในขณะเดียวกันก็ควรนำเสนอความร่วมสมัย

“ประเทศไทยกำลังจะก้าวจากประเทศที่รุ่งเรืองทางอารยธรรม เปลี่ยนเป็นประเทศที่มีความคิด นักคิด เป็นผู้นำทางความคิดในภูมิภาคเอเชีย เพราะฉะนั้นหน้าที่ของมิสยูนิเวิร์ส หรือทูตวัฒนธรรม ก็ควรจะมีหน้าที่ที่จะไปเล่าแมสเสจเหล่านี้ให้คนทั่วโลกได้ฟัง ดังนั้นชุดของมิสยูนิเวิร์สก็น่าจะทำหน้าที่นั้น และเราจะดำเนินไปที่ไหนในวันข้างหน้า ดังนั้นเสื้อผ้าน่าจะแสดงออกถึงคาแร็คเตอร์เหล่านั้นได้ดี

“เราก็พยายามจะทำชุดให้บ่งบอกถึงความเป็นไทยที่ร่วมสมัย ขณะเดียวกัน มันจะร่วมสมัยไม่ได้ ถ้าเราไม่รู้จักตัวตนของเราในอดีต ดังนั้นชุดจึงเป็นการผสมผสานระหว่างตัวตนของเราและวิธีคิดที่เราจะนำประเทศไทย ความเป็นผู้หญิงไทยไปสู่สังคมในอนาคตได้อย่างไร ก็เป็นโจทย์ที่เราเลือกทำชุดนี้ขึ้นมา ก็น่าดีใจที่ตัวมิสยูนิเวิร์สไทยแลนด์สามารถทำหน้าที่นั้นได้ดี สามารถเป็นตัวแทนผู้หญิงไทย ชุดได้รับคำชมมาก คำติก็เช่นกัน”

พอพูดถึงกระแสโซเชียลที่มีทั้งชื่นชมและคำติพี่ หมู อาซาว่า ก็บอกว่า

“จริงๆ เราทำ เราก็รู้อยู่แล้วว่าจะมีคนจำนวนหนึ่งที่รู้สึกว่าชุดแบบนี้ไม่ใช่ชุดตามแบบฉบับนางงาม ในเรื่องของสีดำพี่คิดว่า ความงามและการรู้จักกาลเทศะมันต้องมาคู่กัน มุ่งเน้นแต่ความงามโดยไม่มองสภาวะแวดล้อมมันก็เหมือนเป็นคนที่งามผิดที่ผิดทาง“

โดดเด่นท่ามกลางชุดนับร้อยบนเวที

         ขณะที่สาวงามอยู่รวมกันถึง 86 ประเทศ การทำชุดสำหรับสวมใส่เดินบนเวทีกับชุดลำลองให้สวยโดดเด่นออกมาจากหมู่สาวงามคนอื่นก็ไม่ใช่เรื่องง่ายเช่นกัน แต่ก็ไม่ยากเกินไปสำหรับนักคิดอย่างพี่หมู

“ชุดต้องมีคาแร็คเตอร์ ไม่เอะอะโฉ่งฉ่าง และในทุกชุดต้องเหมาะสมกับสถานที่ที่เราไป เพราะกิจกรรมมีความหลากหลายมาก นอกจากเหมาะสมกับสถานที่ที่ไป สอง ต้องเหมาะสมกับตัวผู้สวมใส่ ชุดอะไรก็ตามที่เหมาะสมกับสถานที่ที่ไป และเหมาะสมกับตัวผู้สวมใส่ มักจะสร้างความโดดเด่นด้วยตัวของมันเองอยู่แล้ว แต่ต้องบอกว่าสองปีที่ผ่านมาต้องขอชมกองประกวดว่าสามารถเลือกนางงามที่มีความโดดเด่นได้ดีอยู่แล้ว ดังที่จะเห็นว่าเป็นสองปีที่ไทยเราสามารถเข้าไปยังรอบลึกๆ ได้จริงๆ เมื่อเราได้นางงามที่มีความโดดเด่นแล้ว เรื่องอื่นก็ไม่ใช่เรื่องยาก

“การทำชุดนางงามเราก็อาจจะต้องคิดถึงเวทีนางงามนิดหนึ่ง เพราะสุดท้ายมันต้องมีคัตติ้งเอจบางอย่างในนั้นที่จะสร้างความโดดเด่น ชุดบนเวทีประกวดก็จะแตกต่างจากชุดที่ทำปกติ เพราะชุดของอาซาว่าปกติจะเรียบกว่านั้น แต่พอขึ้นเวทีแล้วก็ต้องมีการเล่นเท็กซ์เจอร์ เช่น การตกกระทบกับแสง ก็ต้องคิดว่าเราจะทำยังไง เมื่อเราต้องอยู่รวมกับกองทัพชุดเลื่อมและชุดลูกไม้ เราจะทำยังไงให้ชุดของเราไม่ดร็อป แต่ในขณะเดียวกันมีความโก้ ความสง่า ที่มองเห็นได้ชัดว่ามันแตกต่างกัน ก็เป็นโจทย์ที่ไม่ง่าย”

หากมองอนาคตของการประกวดนางงาม หลังจากวันนี้จะเป็นอย่างไร พี่หมูทิ้งท้ายว่า

“สุดท้ายแล้วมันคือการบ่งบอกถึงภาพลักษณ์ของผู้หญิงในสังคมปัจจุบัน เพราะฉะนั้นจะเห็นว่า ความสวยไม่ใช่คำตอบเดียวต่อไปแล้ว มันต้องมีเรื่องของบุคลิก ความฉลาด เป็นตัวอย่างที่ดีของผู้หญิงสมัยใหม่ เพราะฉะนั้นก็เหมือนเป็นทูตของประเทศ มีหน้าที่ตามมามากมาย ฉะนั้นไม่ใช่แค่ผู้หญิงสวยและหุ่นดี แต่ต้องมีวิธีคิด มีมุมมองการดำเนินชีวิตที่เป็นตัวแทนของชาตินั้นๆ ได้”

เรื่อง : Red Apple_แพรวดอทคอม