สู่ขวัญ บูลกุล

เรื่องเล่าจากการเปิดกรุเสื้อผ้าของ สู่ขวัญ บูลกุล แค่เก็บทิ้งก็เปลี่ยนชีวิตได้!

สู่ขวัญ บูลกุล
สู่ขวัญ บูลกุล

เรื่องเล่าจากการเปิดกรุเสื้อผ้าของ พี่ขวัญ- สู่ขวัญ บูลกุล กับแรงบันดาลใจที่เปลี่ยนชีวิตสาวนักช้อป!

อะไรๆ ก็น่าเสียดาย เก็บไว้เผื่อวันหนึ่งข้างหน้าจะได้ใส่…คือหวังผลอนาคต แต่ทุกข์ทรมานในปัจจุบัน ของแน่นเอี้ยดในตู้เสื้อผ้า หาอะไรก็ไม่เจอ เสื้อรีดมายังไงก็ยับ ของใหม่ก็ไม่มีที่แขวน น่าจะเป็นปรากฏการณ์ที่ไม่ได้เกิดขึ้นกับดิฉันคนเดียว แต่น่าจะเป็นประสบการณ์ร่วมของคนช่างช็อปทั้งหลาย คิดจะโละของเก่า จัดตู้ซะใหม่ แต่แค่เห็นปริมาณที่ต้องฝ่าฟันก็เหมือนจะท้อและไม่รู้จะเริ่มต้นตรงไหน

แล้ววันนั้นก็มาถึง มีคนให้หนังสือเกี่ยวกับการจัดบ้าน เก็บของทิ้งอะไรทำนองนั้น พาดหัวดูน่าสนใจ เขาว่าแค่เก็บของทิ้งก็เปลี่ยนชีวิตได้ ดูยิ่งใหญ่ ต้องอ่านสักหน่อย…อ่านจบได้แรงบันดาลใจมหาศาล เดินเข้าห้องเสื้อผ้า เริ่มต้นที่ราวแรก ไล่ไปตั้งแต่ตัวที่หนึ่ง

1.ไม่ได้ใส่เกินปี

2.ใส่ไม่พอดี

3.ไม่ชอบแล้ว

4.ตัวไหนสองจิตสองใจ ง่ายๆ ลองใส่แล้วส่องกระจก ถ้าใส่แล้วไม่สวย เสื้อผ้าใดที่อยู่ในข่าย 4 ข้อนี้จะถูกถอดไม้แขวนแล้วทิ้งลงพื้นทันที เด็ดขาดและฉับไว

เริ่มได้ไม่นานก็เกิดความเมามัน หันมาดูอีกที เกิดทะเลเสื้อผ้าความสูงระดับเข่า แทบไม่เชื่อสายตา ทำไมเราถึงเก็บของที่ไม่ใช้ไว้ได้มากมายขนาดนี้!!!

สิ่งที่พบเจอ

-เสื้อผ้าสมัยวัยเยาว์ แบบว่า 20 กว่ายังเก็บไว้ แบบว่าปัจจุบัน 40 กว่า แบบว่าเก็บไว้เพื่อ…!?

-กางเกงสีดำจำนวนมาก ทุกแบบ ทุกสไตล์ ทุกระดับความยาว ทุกเนื้อผ้า กางเกงยีนส์จำนวนมหาศาล สีและทรงใกล้เคียงกันสุดๆ คือบางอย่างเราชอบ เราใส่บ่อย เราก็จะซื้อแต่แบบนั้น (เหมือนลิปสติก มีเป็นร้อย แต่สีเดียวกันเกินครึ่ง)

-ของซื้อตอนเซล อันนี้ไม่ต้องพูดมาก น่าจะเข้าใจกัน บางอย่างก็ไม่ได้ชอบมาก บางตัวซื้อมาเล็กนิดใหญ่หน่อย บางตัวแบบแปลกประหลาด ปกติก็ไม่ใส่ แต่ลด 50 เปอร์เซ็นต์ก็เอาซะหน่อย

-ของที่ซื้อเพราะชอบ แต่ไม่เหมาะกับตัวเอง รู้ทั้งรู้แต่ก็ซื้อมา แค่ได้เห็นว่าแขวนอยู่ในตู้ก็มีความสุข…ทิ้งค่ะ และที่ต้องทิ้งแรงๆ เลยคือ นิสัย

การรื้อตู้เสื้อผ้าคราวนี้เหมือนรื้อดูตัวเองที่ผ่านมา ข้าวของเครื่องใช้บอกอะไรเกี่ยวกับตัวเราเองได้หลายอย่าง (ลองหันมองรอบๆ ตัวคุณตอนนี้ดูสิคะ) และแทบไม่น่าเชื่อ นิสัยช่างซื้อที่สะสมมาเป็นเวลาหลายสิบปีถูกเปลี่ยนแปลงไปด้วยการจัดห้องเสื้อผ้าใหม่ในครั้งนี้ ดิฉันใช้เวลาเคลียร์ของอยู่ 3 วัน ดิฉันรู้ดีแล้วว่าเราชอบอะไร ไม่ชอบอะไร อะไรที่จะได้ใช้ อะไรไม่มีวันได้ใช้ อะไรมีมากจนเกินความจำเป็น และที่สำคัญการซื้อเพิ่มคือภาระการจัดเก็บ ความชัดเจนในเรื่องต่างๆ เหล่านี้ทำให้พฤติกรรมการซื้อของของดิฉันเป็นไปอย่างมีสติมากขึ้น

การช็อปปิ้งของดิฉันยังคงสนุกเหมือนเดิม แต่เพิ่มเติมคือความรู้สึกดี เพราะรู้ว่าของที่ซื้อจากนี้มีประโยชน์และได้ใช้แน่นอน…เสื้อผ้าที่ทิ้งน่าเสียดายไหมหรอคะ ดีๆ อยู่ทั้งนั้นเลย?? ไม่เลยค่ะ ดิฉันรวบรวมเอาไปให้น้องๆ ที่บริษัท ใครอยากได้อะไรเอาไปเลย และใครอยากจะร่วมบริจาคเล็กๆ น้อยๆ เท่าไหร่ก็ได้ไม่จำกัด ดิฉันนำเงินบริจาคที่รวบรวมได้ไปทำบุญทั้งหมด น้องๆ ที่ช่วยงานกันมาก็ได้ไปทำบุญร่วมกัน มีความสุขร่วมกันทุกฝ่าย…ดิฉันไม่ได้ทิ้งของนะคะ ดิฉันรวบรวมของที่ไม่ทำประโยชน์แล้ว ให้ไปเป็นประโยชน์ของคนอื่นต่อต่างหาก…คุณๆ จะลองดูกันบ้างไหมคะ

เรื่อง : สู่ขวัญ บูลกุล

ภาพ : โยธา,@suquanbulakul

Praew Recommend

keyboard_arrow_up