ญาญ่า-คิมมี่-มาร์กี้ Stand by Me เพื่อนกันน่ารักเฟร่อออ

ญาญ่า-คิมมี่-มาร์กี้ Stand by Me เพื่อนกันน่ารักเฟร่อออ

ญาญ่า-คิมมี่-มาร์กี้ นี่คือเรื่องราวความรักความผูกพันของ 3 นางเอกชื่อดังแห่งยุค ถ้าใครพูดว่าวงการบันเทิงคือมายา ทุกคนล้วนใส่หน้ากากเข้าหากัน จะหารักแท้ มิตรภาพงดงามนั้นแสนยาก คงถูกมองหน้าว่าหลุดมาจากพอศอไหน เพราะที่นี่ เดี๋ยวนี้ วงการบันเทิงสุดแสนจะหอมหวล แถมมิตรภาพก็เบ่งบาน  กอดคอรักเป็นเพื่อนเหนียวแน่นไม่แพ้วงการไหนๆ รับรองว่าคุณจะอ่านไปยิ้มไปให้กับมิตรภาพความเป็นเพื่อนที่สุดแสนจะน่ารักเฟร่อออของพวกเธอ

มาร์กี้ : เราเจอกันในคลาสเรียนการแสดงเรื่อง ‘สี่หัวใจแห่งขุนเขา’

ญาญ่า : พี่กี้เป็นหัวหน้าทีมค่ะ ความที่เขาเข้าวงการมาก่อนจึงรู้เรื่องการทำงานมากกว่า ช่วงแรกๆ หนูกับคิมจะขอคำปรึกษาเยอะ พี่กี้สอนว่า ฉากนี้ยูต้องเล่นแบบนี้ เจอคนนี้หรือยัง เป็นเหมือนมาสเตอร์ของพวกเรา พี่กี้รู้ทุกอย่างและเฟรนด์ลี่มาก เป็นนักแสดงที่เข้าถึงง่ายที่สุดที่หนูเคยเจอมา อยู่ด้วยแล้วไม่เคยเหงาเลย ส่วนคิม หนูเจอตั้งแต่วันแคสติ้ง

เห็นครั้งแรกแล้วรู้สึกว่า ผู้หญิงคนนี้สวยจัง ตัวสูง ขี้อายมาก แต่ตอนนี้พูดไม่หยุดเลย”

คิมมี่ : เฮ้ย… ทำไมเป็นงั้นล่ะ(หัวเราะ) วันแรกที่เจอกัน ญ่าแต่งตัวฮิปปี้ ใส่แม็กซี่ยาว ดูเรียบร้อย พูดภาษาไทยไม่ชัด

ไม่คิดว่าจะเป็นแบบตอนนี้คือมีความทะลึ่งสูงมาก บางคำอาจได้จากพี่แบร์มั้ง (ณเดชน์ คูกิมิยะ) แต่ไม่สามารถยกตัวอย่างคำพูดเหล่านั้นได้นะคะ ไม่ผ่านเซ็นเซอร์ นอกจากนี้ญ่ายังเป็นสาวโก๊ะ แต่ในมุมกลับกัน เวลาคิมมีปัญหา

ญ่าจะให้คำปรึกษากับเพื่อนได้ดีมาก (ญาญ่าฟังแล้วกอดอกภูมิใจ)

ญาญ่า-คิมมี่-มาร์กี้ญาญ่า-คิมมี่-มาร์กี้

มาร์กี้ : สิ่งที่ทำให้เราสามคนสนิทกัน  กี้ว่าความเป็นลูกครึ่งมีส่วน เรามีอะไรหลายอย่างคล้ายกัน อย่างคุณพ่อกี้ชอบทะเลมาก เสาร์อาทิตย์ต้องอยู่ทะเล คุณพ่อของญ่าก็ชอบทะเล จึงเลือกไปอยู่พัทยา ส่วนคิมอยู่พัทยาตั้งแต่เด็ก เราถูกเลี้ยงดูมาเหมือนๆ กัน โตมาในแบบลุยๆ คือ ลงน้ำได้ เปียกฝนได้ ทำให้เราไม่ได้มีความเป็นผู้หญิงสูง นี่คือสิ่งที่ทำให้ราเข้ากันง่าย แม้จะมีความต่างกันอยู่บ้าง เช่น ญ่ามาสายกิจกรรมลุยๆ อย่างปีนเขา กี้เน้นหาที่ออกกำลังหายใหม่ๆ หรือชวนเพื่อนไปเที่ยวต่างจังหวัด สำหรับคิมเชี่ยวชาญเรื่องของกิน เป็นความสุขของนาง (หัวเราะ)

คิมมี่ : ถ้าว่างตรงกันเราจะนัดกินข้าว หรือไม่ก็ไปรวมตัวกันที่บ้านของญ่า เพราะอยู่ตรงกลางระหว่างบ้านคิมกับกี้

กิจกรรมโปรดของเราคือ คุยเม้าท์มอย กินขนม และเล่นเกมเต้น ซึ่งแชมป์ถาวรคือ ญ่า เพราะนางเล่นทุกวัน แอดวานซ์ขนาดเต้นพร้อมกับเล่นโทรศัพท์มือถือได้ ส่วนเราสองคนนี่งูๆ ปลาๆ แต่ก็พยายามนะ โดยเฉพาะกี้ที่เม้มปากจริงจังมาก

เหมือนเล่นหวังโล่รางวัลก็ไม่ปาน(หัวเราะ) ญ่ากับกี้นี่แหละที่คิมเล่าทุกอย่างแบบเปิดอก น้อยคนที่เราจะแชร์เรื่องทั้งหมดแบบนี้ได้ เวลาคิมไม่สบายใจ เรารู้ว่าประตูบ้านญ่าเปิดตลอด ไปเมื่อไรเขาก็ออกมากอด ที่ผ่านมาคิมไปบ้านญ่าไม่ต่ำกว่า 10 ครั้ง ถึงแม้ตอนนั้นเราจะมีข่าวอะไร แต่ญ่ากับกี้ไม่เคยตัดสินเราจากสิ่งที่คนอื่นพูด แต่อยู่ข้างๆ และซัพพอร์ทแบบ 100 เปอร์เซ็นต์

ญาญ่า : ในวงการนี้หาเพื่อนแท้ยากมากนะคะ หนูจึงประทับใจคิมกับพี่กี้มากๆ เราให้ความไว้วางใจกันสูง แม้เข้าวงการพร้อมกัน ซึ่งส่วนมากนักแสดงรุ่นเดียวกันจะแข่งขันกันสูง ทุกคนอยากให้ผลงานตัวเองออกมาแล้วดัง แต่เราไม่เคยมีความรู้สึกแบบนั้น จะช่วยผลักดันซึ่งกันและกัน ยกตัวอย่างเวลาถ่ายแบบด้วยกัน ถ้าพี่กี้สังเกตว่า หนูวางขาไม่สวย ก็จะบอกว่าขยับขาไปข้างหน้านิดหนึ่งสิญ่า หรือหนูจะบอกคิมว่า ยูเอียงหน้านิดหนึ่งจะทำให้รูปนี้สวยขึ้นนะ คือต่างคนอยากให้อีกฝ่ายรอดและได้งานที่ดีที่สุด อีกเหตุการณ์ที่ทำให้รู้ว่า ทั้งสองคนเป็นเพื่อนแท้จริงๆ คือมีวันหนึ่งที่หนูรู้สึกแย่กับเรื่องหนึ่งมาก แต่ไม่ได้บอกใคร จู่ๆ มีเสียงกดออดที่หน้าบ้าน พอเปิดประตูไปก็เห็นพี่กี้กับคิมโผล่มาฮัลโหล แล้วก็มาขลุกอยู่ด้วยกันทั้งวัน (ยิ้ม) สิ่งนี้แสดงว่าทั้งสองคนสังเกตและใส่ใจความรู้สึกของเรามาก ไม่ได้เป็นแค่ครั้งเดียวนะคะ เมื่อไรที่ใครคนหนึ่งต้องการกำลังใจ คนที่เหลือจะจูงมือกันไปให้กำลังใจแบบนี้ตลอด

ญาญ่า-คิมมี่-มาร์กี้

ญาญ่า-คิมมี่-มาร์กี้ญาญ่า-คิมมี่-มาร์กี้

ญาญ่า-คิมมี่-มาร์กี้ญาญ่า-คิมมี่-มาร์กี้

ญาญ่า : อีกเรื่องหนึ่งที่ทำให้เราสามคนเข้ากันได้ดี เพราะสมองเวิร์คในทางที่แสบคล้ายๆ กัน ต่างคนทันกัน เพราะฉะนั้นเวลาเจอกันจึงสนุก แต่พี่กี้ไม่ค่อยมีอะไรให้เผา เพราะชีเร็วกว่าใคร เวลาจะแกล้งอะไรก็รู้ทันก่อน บางทีแค่มองหน้า ชีก็รู้แล้วห้ามทันทีว่า No… อย่าแม้แต่คิดนะ

มาร์กี้ : ฉันเป็นคนดี ไม่มีอะไรให้เม้าท์ต่างหาก

ญาญ่า(หัวเราะ) : คนที่โดนแกล้งเยอะที่สุดจึงเป็นคิมที่พยายามหาเรื่องคนอื่นก่อน แต่สุดท้ายตามคนอื่นไม่ทัน แต่ที่แกล้งก็เพราะรักนะ (ยิ้มให้เพื่อน)

มาร์กี้ : รักของเราเป็นความรักแบบเพื่อนที่อายุไล่เลี่ยกัน ทำงานอยู่ในวงการเดียวกัน แต่เราไม่เคยคิดร้ายต่อกัน ไม่เคยที่จะคิดชิงดีชิงเด่นเหมือนอย่างที่ญ่าบอกจริงๆ เราอยู่กันอย่างแบ่งปัน งานไหนที่ติดต่อกี้แล้วไม่ว่าง จะบอกคนจ้างว่า

พี่ลองโทรเช็คคิมไหม คิมอาจว่างนะ กี้จะพูดแบบนี้ตลอด เราอยู่กันแบบทีมเวิร์ค ถ้าเราแตกกัน เราอาจสู้ใครไม่ได้

แล้วถ้ามาแย่งชิงดีชิงเด่น จะไม่มีใครที่ไปถึงจุดที่ดี เพราะแต่ละคนมีจุดอ่อนและจุดแข็งที่แตกต่างกัน เช่น กี้อาจไม่สวยเหมือนคิม แต่มีความตลกโปกฮา เอ็นเตอร์เทนเก่งกว่า เพราะฉะนั้นเวลาเราอยู่รวมกันจะเหมือนขบวนการเต่านินจา ที่แม้จะแตกต่าง แต่พอรวมตัวแล้วกลายเป็นทีมเวิร์กที่ดี

คิมมี่ : เราเติบโตมาพร้อมๆ กัน ญ่ากับกี้ถือเป็นสองคนในโลกนี้ที่รู้ทุกอย่างที่เกิดขึ้นในชีวิตของคิม อยากบอกว่าทั้งคู่เป็นเพื่อนที่โคตรน่ารักจริงๆ คิมมักบอกตัวเองว่าสิ่งดีที่สุดในการเข้ามาทำงานในวงการบันเทิง นอกจากได้ทำงานที่รักแล้ว

คือการได้เจอเพื่อนแท้ดีๆ อย่างนี้ค่ะ

 

ที่มา : นิตยสารแพรว

ติดตามอัพเดตเรื่องราวต่างๆจากนิตยสารแพรวให้สนุกยิ่งขึ้นได้ที่

www.facebook.com/praewmagazine

Instagram : @praewmag

และติดตามอ่าน แพรว E-Magazine ได้แล้ววันนี้เพียงดาวน์โหลดแอพพลิเคชั่น

  • Praew E-magazine
  • NaiinPann
  • Ookbee

 

Praew Recommend

keyboard_arrow_up