account_circleใกล้สิ้นปีพร้อมกับละครล็อตสุดท้ายถูกดันขึ้นจอเป็นที่เรียบร้อย แต่ท่ามกลางละครเป็นร้อยเรื่อง(โอ้… สุดยอดทั้งคนทำและคนดู) ใช่ว่าจะเปรี้ยงไปซะหมด หลายเรื่องแป้ก จอดแบบไม่แจว หลายเรื่องเริ่มต้นดี แต่ลงท้ายคนดูส่ายหน้า บอกเสียเวลาดูเจงๆ praew.com จึงรวบรวมละคร(ช่อง 3)ที่ทำให้คนดูมีเรื่องเม้าท์แตกประจำวันมาได้ 12 เรื่อง ส่วนจะตรงใจผู้ชมหรือไม่ คอมเม้นต์กันเข้ามาได้เลยจ้า
1.ในสวนขวัญ : ออนแอร์ 5 มกราคม – 2 กุมภาพันธ์
ช่อง 3 เปิดปีด้วยละครโรแมนติกแนวอุ่นๆ และก็อาจจะเป็นเพราะบทละครเป็นแบบยะเนิบ เรื่อยๆ เดาไม่ยาก ไม่โฉ่งฉ่างละมัง จึงทำให้ท็อปปิคของละครเรื่องนี้ถูกพูดถึงในระดับแผ่วๆ แผ่วชนิดที่ว่าเมื่อมีกระแสในโลกออนไลน์พูดถึงละครเรื่องนี้ครั้งใด เป็นต้องเทไปข้างชื่นชมเอ็นดูคู่จิ้น BM บอย ปกรณ์-มาร์กี้ รวมทั้งมีสาวๆ อยากเติมสร้อยชื่อให้น่ารักน่าเอ็นดูอย่างชื่อนางเอก “เป็ดปุ๊ก” เผื่อจะมีชายหนุ่มอย่างนายไม้ ปกรณ์หนวดงามมาดูแล แต่โดยส่วนตัวเราชอบความรู้สึกอุ่นๆ เวลาดูเรื่องนี้นะ ไม่รุ่มร้อน กระโตกกระตาก หรือเหนื่อยกับการคาดเดาดี ที่สำคัญพล็อตของเรื่องที่เสนอถึงปัญหาครอบครัวก็ดูใกล้ตัวคนธรรมดาสามัญมาก ใกล้อย่างชนิดที่ว่าคุณสามารถเห็นปัญหาเหล่านี้จากเคสข้างบ้านยังได้
2.เวียงร้อยดาว : ออนแอร์ 13 มกราคม– 25 กุมภาพันธ์
ละครผีกึ่งสืบสวนฆาตกรรม อำนวยการสร้างโดยค่ายแอค-อาร์ต เจเนอเรชั่น ของเจ๊แดง-ธัญญา และป๋าอ๊อฟ พงษ์พัฒน์ วชิรบรรจง กำกับการแสดงโดย สถาพร นาควิไล พระ-นางคือ สมาร์ท-แต้ว นักแสดงนำคือแต้ว โดนัท และน้ำผึ้ง(คนที่ไม่งง เพราะเก็ตว่าพระเอกของเรื่องไม่ใช่นักแสดงนำ แค่เป็นคนที่มาคู่กับนางเอกเท่านั้น 55) ตามด้วยดารามากฝีมือรุ่นเด็ก รุ่นใหญ่ อีกคับคั่ง เป็นละครที่ทำให้ผู้คนพูดถึงผีเวียงแก้วอยู่ได้เป็นเดือน แต่น่าแปลกว่าเสียงข้างไปทางผีโรคจิตมีมากกว่าผีน่ากลัว กับอีกเรื่องที่หลายคนลงเสียงวิจารณ์คล้ายๆ กันคือตอนจบ เขาบอกว่าจบง่ายไป ไม่สาใจ
3.สามีตีตรา : ออนแอร์ 19 กุมภาพันธ์ – 2 เมษายน
ผลงานการผลิตของนางเอกมากความสามารถ แอน ทองประสม ที่ต้องบอกว่าเธอจุดพลุให้กับตัวเองได้เป็นผลสำเร็จจากการจัดละครเรื่องนี้ เป็นละครที่กระแสดีตั้งแต่ต้นจนจบ ตัวละครทุกตัว ไม่ว่าจะเป็นตัวนำ ตัวตาม ล้วนได้รับคำชื่นชมกันแบบถ้วนทั่ว ผู้คนต่างกล่าวขวัญไปทั่วจนเกิดเป็น “สามีตีตราฟีเวอร์” เรียกว่าทันทีที่ละครจบก็แช็ทกันในโลกออนไลน์แบบกระหน่ำ ต่างพูดถึง กั้ง-พลอย สายน้ำผึ้ง-จุ๋ย และคุณพิศุทธิ์-โป๊ป ด้วยวลีหลงรักอย่างถ้วนทั่ว จากใจเลยอยากบอกว่านี่คือละครแห่งปี และก็เพราะความแรงของสามีตีตราเวอร์ชั่นผู้จัดแอนนี้เองที่ทำให้หลายคนเริ่มจับประเด็นว่าเธอจะเหมาละครที่ตัวเองเคยแสดงไว้มาจัดเองรึเปล่า ดีที่เรื่องที่ 3 “แอบรักออนไลน์” แอนไหวตัวทัน ประเด็นนี้เลยจบ
4.ลูกทาส : ออนแอร์ 3 มีนาคม– 14 เมษายน
ละครอิงประประวัติศาสตร์สมัยรัชกาลที่ 5 ที่มีประวัติรีเมคไม่ถึงสิบครั้ง ทั้งที่ต้นฉบับนิยายที่เขียนโดย รพีพร(สุวัฒน์ วรดิลก)นั้นมีอายุกว่า 50 ปีแล้ว(ตีพิมพ์มาตั้งแต่ปี 2506 โน่น) โดยเวอร์ชั่นล่าสุดเป็นการตีความของค่ายทีวีซีนแอนด์ พิคเจอร์ หลายเสียงชมว่านักแสดงเล่นได้ดี ถ่ายทำสวย(เพราะมีซีจีช่วย) รวมทั้งไดอะล็อกตัวละครที่สามารถโคทเป็นคำคมสอนใจได้อย่างชนิดรวมเล่มขายก็ทำเงิน แต่ก็อ่ะนะ ความพลาดน่าจะเป็นเพราะมาออนแอร์ในพอศอที่คนดูดูด้วยสายตาจดจ้องรายละเอียดมาก รุ่งเช้าหลังดูละคร ในโลกโซเชียลเลยมีแต่ประเด็น “กล้ามไอ้แก้วทำฟิน” ไปเสียแทนที่จะพูดถึงเนื้อหาละครหรือเกร็ดประวัติศาสตร์ไทย
5.อย่าลืมฉัน : ออนแอร์ 3 เมษายน– 15 พฤษภาคม
เป็นละครที่พิสูจน์ว่ารุ่นใหญ่ยังเจ๋งอยู่ ด้วยทัพนักแสดงระดับแม่เหล็กของวงการ ไม่ว่าจะเป็น ติ๊ก-เจษฎาภรณ์ ผลดี, ก้อง-สหรัถ สังคปรีชา, แอน ทองประสม, ศรีริต้า เจนเซ่น แค่เอ่ยชื่อก็การันตีความติดตลาดตั้งแต่อยู่ในมุ้ง แล้วก็จริงอย่างคาด เพราะทันทีที่ออนแอร์ คนดูก็ฟินจิกหมอนจนเกิดปรากฏการณ์อย่าลืมฉันฟีเวอร์ระบาดไปทั่วโซเชียลเน็ตเวิร์ก มีทั้งคัดเอาวลีคุณเขม คุณเอื้อ สุริยาวดี และเกนหลง มาโพสต์ เอาหน้าสองหนุ่มติ๊ก-ก้อง ไปทำอินโฟร์กราฟิกว่าใครทำสาวเพ้อฟินด้วยบุคลิกแบบไหน อาจจะเพราะพระเอกหล่อเทพทั้ง 2 รายนี้นานๆ ทีจะมีละครออกมาให้ดูแก้คิดถึง แล้วนี่มาอยู่ในเรื่องเดียวกัน ซีนเดียวกัน ความอื้ออึงก็เลยบังเกิด อื้ออึงถึงขนาดคนดูพร้อมจะมองข้ามความยุงไข่ของพล็อต และบุคลิกเลือดจะไปลมจะมาของคุณเขมไปได้เลยละ อย่างนี้สิถึงเรียกว่าเจ๋งจิงไรจิง
6.ก๊วนคานทองกับแก๊งพ่อปลาไหล : ออนแอร์ 13 เมษายน – 16 พฤษภาคม
กับละครเรื่องนี้ต้องให้นิยามว่า “ผิดฟอร์ม” เพราะด้วยคุณสมบัติของทีมนักแสดง ใครเห็นก็ฟันธงว่า “งั้นๆ” แต่พอออนแอร์ไปเรื่อยๆ โอ้… นี่คือละครม้ามืด ทำคนดูผิดคาดหงายเงิบเพราะดูสนุกกว่าที่คิดมากมาย จนเกิดกระทู้อยากให้สร้างภาคสอง แถมยังทำให้เกิดมิติแห่งคู่จิ้นที่ข่าวว่าจนถึงวันนี้ที่ละครจบไปกว่าครึ่งปีแล้ว แต่ทั้งจอย รินลณี และอาเล็ก ธีรเดช ก็ยังทัวร์รับทรัพย์จากงานอีเว้นท์ไม่เลิก แถม FC ก็เหนียวหนึบ มีจัดมีตติ้งที่ไหนก็เฮฮาฟินกระจาย
7.เสน่หาสัญญาแค้น : ออนแอร์ 21 พฤษภาคม – 10 กรกฎาคม
ด้วยส่วนผสมหลายๆ อย่าง แต่ที่แรงสุดคือห้วงเวลาที่ละครออนแอร์ตรงกับช่วงที่ข่าวรักร้าวของนางเอกสาว เจนี่ เทียนโพธิ์สุวรรณ กำลังพีคสุดขีด โดยข่าวทั้งหมดช่างขัดกับบุคลิกนิสัยนางเอกแบ๊ว ปานตะวัน ตามท้องเรื่องแบบไม่แมทช์สุดโต่ง เมื่อบวกกับบุคลิกจิตแปลกๆ ของพระเอก นาคินทร์ ที่แสดงโดยหล่อเทพ โดม ปกรณ์ ลัม จึงพาลทำให้คนสับสนไม่เชื่อที่มาที่ไปของเรื่อง สรุปคือเป็นละครที่คนดูส่วนใหญ่เทข้างไปทางบอกว่าดูแล้วทั้งไม่อิน ไม่ฟิน งานนี้ค่ายบ้านละคอน โดยโพลีพลัส น่าจะได้บทเรียนสำหรับการปรับกลยุทธิ์การทำงานครั้งใหญ่เชียวแหละ
8.รักนี้… เจ้จัดให้ : ออนแอร์ 15 มิถุนายน – 13 กรกฎาคม
จารึกได้เลยว่าผู้จัดพุดเดิ้นแจ้งเกิดให้ตัวเองในฐานะผู้จัดละครได้เป็นผลสำเร็จ กับผลงานเรื่องแรกที่ดีตรงนางเลือกขายความฮาเป็นหลัก ดังนั้นทันทีที่ออนแอร์ไปได้ไม่กี่ตอน ก็เกิดกระแสทอล์คไปทั่ว “ละครอะไร ฮาได้ทุกเบรค” และก็เพราะคำโฆษณาชวนเชื่อนี่แหละที่ทำให้หลายคนกดรีโมททดลองความฮา และแทบทุกคนเป็นต้องหลงเสน่ห์ฝีมือการแสดงของสาว แมท ภีรนีย์ ในบทของ ลูกจัน บ.ก.นิตยสารผู้หญิง ที่ปากร้าย เกลียดผู้ชาย ค่าที่นางเล่นใหญ่โอเวอร์ได้แบบไม่น่าเกลียด แต่ที่ทึ่งสุดเคือโฬม พัชฏะ ในบท พีท-พอล ฝาแฝดที่หนึ่งเป็นสาว อีกหนึ่งเป็นแมนร้อย โดยหนุ่มโฬมได้รับเสียงตอบรับว่าแสดงได้ถึงบทแบบตีแตก ชาวสีม่วงหลงเพ้อทีเดียวเชียว
9.รากบุญ2 ตอน รอยรักแรงมาร : ออนแอร์ 8 กรกฎาคม– 12 สิงหาคม
หลายคนน่าจะรู้สูตร การทำละครภาคต่อมักหืดกว่าภาคแรก ค่าที่ผู้ชมตั้งตารอ รวมทั้งอดเปรียบเทียบไม่ได้ การตัดสินใจสร้างของปิ่น ณัฎฐนันท์ แห่งค่ายทีวีซีนแอนด์ พิคเจอร์ จึงนับว่าต้องเจอแรงเสียดทานเยอะพอควร ถามว่าสอบผ่านไหม ข่าวว่าเรตติ้งมวลรวมได้ไม่เท่าไหร่ แต่สำหรับคอละครที่เอือมกับพล็อตเดิมๆ นี่คือพล็อตที่ทำให้ “หลุดพ้น” ออกมาได้ แถมมีข้อคิดเรื่องบาปบุญให้เก็บไปขบได้อีก อาจไม่ฟินเท่าภาคแรก ทว่าถ้าเจ๊ปิ่นทำภาค 3 มา กลุ่มนี้เขาก็น่าจะสาบานตนดูต่อ เพราะฉะนั้นยุให้ค่ายกับช่องอย่าท้อถอย กรี๊ดกร๊าดสักสิบเรื่องมีอย่างนี้แทรกมาสักเรื่อง ก็ดีกว่าไม่ทำอะไรเลยนะ
10.รอยรักหักเหลี่ยมตะวัน&รอยฝันตะวันเดือด : ออนแอร์ 16 กรกฎาคม –1 ตุลาคม
ฟอร์มดีมีชัยไปกว่าครึ่ง แต่อีกครึ่งที่เหลือหากคุณภาพไม่แน่นสมคำลือก็มีสิทธิทำให้ละครไปไม่ถึงฝั่งฝันได้ และรอยรักหักเหลี่ยมตะวัน&รอยฝันตะวันเดือด คือตัวอย่างของความไม่แน่นที่ว่า อ๊ะๆ FC NYMT อย่าเพิ่งเงื้อมือตบ เราไม่ได้วิจารณ์ว่าฝีมือการแสดงของณเดชน์ ญาญ่า มาริโอ้ แต้ว-ณฐพร ไม่มี สี่คนนี้คืออนาคตแห่งวงการบันเทิงไทยเห็นๆ ความสวยงามดูเพลินของโลเกชั่นญี่ปุ่นก็ทำเอาอยากแพ็คกระเป๋าบัดเดี๋ยวนั้น แล้วอะไรล่ะที่เป็นตัวดึงให้ละครไม่ถึงฝั่งทั้งๆ ที่ฟอร์มก็ดี๊ดีอย่างว่า คงต้องโทษความรู้มากของคนดูบางกลุ่มที่ขยันโพสต์ ขยันติง เดี๋ยวก็ว่า เป็นเรื่องของคนญี่ปุ่น ถ่ายทำในญี่ปุ่น แต่นักแสดงพูดไทย คิดแบบไทย เดี๋ยวก็ว่าความไม่ต่อเนื่องของฉาก ใส่เสื้อผ้าญี่ปุ่นดูตลก ประมาณยูกะตะเอวสูงอะไรทำนองนั้น และก็เพราะคำวิจารณ์เหล่านี้แหละที่ทำให้ความดื่มด่ำของเนื้อหาบทละครถูกลดทอนลง แต่ไม่เกี่ยวกับบทเข้าพระเข้านางของสองคู่นั่นนะ อันนั้นน่ะทำฟินจิกหมอน เพราะเอ็นดูขนาด ขนาด
11.ทรายสีเพลิง : ออนแอร์ 18 สิงหาคม-29 กันยายน
ละครรีเมคที่โดนกระแสเปรียบเทียบกับเวอร์ชั่นเก่าแบบจัดเต็ม ระหว่างจ๋า-ยศสินี แห่งค่ายเมกเกอร์ วาย และทราย ชมพู่- อารยา กับเจ๊ไก่-วรายุทธ แห่งค่ายฮูแอนด์ฮู และทราย-หมิว ลลิตา ส่วนใหญ่เทไปข้างชอบเวอร์ชั่นเก่ากว่า เพราะรับไม่ได้กับแอคติ้งร้ายตลาด จิกตา เบะปาก ของสาวชม กับการปรุงรสที่ช่างทำให้บทประพันธ์ “เสียของ” ได้อย่างน่ามอบโลห์แม้กระทั่งแดง-ศัลยา คนเขียนบท ยังออกมาร่วมจวก แต่อย่าว่าโน้นนี้เลยยนะ เราว่าจริงๆ คนดูก็ต้องมีเพลินบ้างแหละ ไม่งั้นวลี “ทรายจะเอาทุกอย่างของทรายคืน” คงไม่ฮิตสนั่นเมืองหรอก
12.ร้ายรักพยัคฆ์กังฟู : ออนแอร์ 21 กันยายน – 25 ตุลาคม
ข่าวว่าเป็นละครเรตติ้งแป้กแห่งปี ฟังแล้วอยากตะโกนดังๆ… ทำไมเป็นอย่างน้านนนน ก็ชั้นชอบ บ้านชั้นชอบ ข้างบ้านก็ชอบ แล้วเขาวัดจากอะไร ก็ถ้าหลักของการดูละครคือเพื่อความเพลิดเพลิน ผ่อนคลาย ละครเรื่องนี้ก็ตอบโจทย์ เพราะสนุก ฮาโค-ตะ-ระ ดูจบแล้วความสุขก็ยังลอยนวลอยู่ ที่เขียนขนาดนี้สาบานว่าไม่ได้เป็น FC ฟิล์ม หรือแม่หนูซูซี่ สุษิรา เลยสักนิด แต่อยากฝาก ยุคนี้ดูละครย้อนหลังกันได้ ชะแว้บไปดูกันเถอะ แล้วจะไม่ผิดหวังเลยเจงๆ นักแสดงทุกคนเขาทุ่มสุดฝีมือเพื่อบริการความฮาเชียวนะนั่น
หากคนอ่านชอบในข้อเขียน ช่วยคอมเม้นต์มาเยอะๆ นะ จะได้มีกำลังใจรวบของบ้านเจ็ดสีมานำเสนอในครั้งถัดไป
เรื่อง Ghibli