ไขความลับสู่ความสำเร็จฉบับ ตือ-สมบัษร นักคิดสมองเพชรแห่งวงการอีเว้นต์ไทย

ไขความลับสู่ความสำเร็จฉบับ ตือ-สมบัษร นักคิดสมองเพชรแห่งวงการอีเว้นต์ไทย

เป็นที่ทราบกันดีกว่าในวงการแฟชั่นการโฆษณาของไทย สิ่งหนึ่งที่จะขาดไม่ได้เลยนั่นก็คือการทำการตลาดโปรโมทสินค้า หรือแบรนด์ด้วยวิธีการจัดอีเว้นต์ ซึ่งทุกวันนี้แม้จะมีบริษัทมากมายให้บรรดาเจ้าของแบรนด์ได้เลือกใช้บริการ แต่ก็คงปฏิเสธไม่ได้ว่าเจ้าแม่ใหญ่แห่งวงการอีเว้นต์ที่ทุกคนต่างยอมรับมากที่สุดในเวลานี้ก็คือ คุณตือ สมบัษร ถิระสาโรช เขามีวิธีคิด วิธีทำงานของเขาคนนี้เป็นอย่างไร วันนี้แพรวดอทคอมได้รวบรวมมาจากบทสัมภาษณ์ในนิตยสารแพรว (ฉบับ863 : 10 สิงหาคม 2558)มาให้อ่านกัน
ตือ-สมบัษร
ในช่วงเริ่มต้นของการเปิดบริษัทตือ จำกัด เมื่อปี 2540 เขาทำงานคนเดียวทุกหน้าที่ ตั้งแต่คุยกับลูกค้า วางแผนกับทีมผลิต ตกลงราคา ติดต่อสถานที่ จนกระทั่งเคลียร์งานให้จบ โดยวิธีคิดของเขา นอกจากต้องคอยหาข้อมูลเพื่อก้าวให้ทันกับรสนิยมของคนแล้ว เขาจะใส่เรื่องของไลฟ์สไตล์ความร่วมสมัย และสิ่งที่เหนือความคาดหมายลงไปในงานทุกครั้ง

ด้วยวัยที่ล่วงเลยมาถึงอายุหลัก 50 ของเขา ทุกวันนี้ตือยังศึกษาหาความรู้ให้ตัวเองอยู่ตลอดเวลา โดยเขาจะใช้เวลาไปกับการอ่านหนังสือ และแลกเปลี่ยนความรู้กับเพื่อนที่อายุน้อยกว่า หรือคนที่มีอาชีพที่แตกต่างกันไปทั้งคนขับรถแท็กซี่ เด็กเสิร์ฟ แม่ค้า รวมทั้งพนักงานขายของในห้างด้วย เพราะเขาเชื่อว่าจะเป็นการเพิ่มพูนความรู้ใหม่ๆ ให้เขา อีกทั้งสิ่งนี้จะทำให้ตัวเองสามารถปรับตัวให้เข้ากับยุคสมัยที่เปลี่ยนไปได้ ไม่ใช่แค่ทำเพื่อการเอาตัวรอด แต่ทำให้รู้ว่าจริงๆแล้วตัวตนเราเหมาะกับอะไร

ตือ-สมบัษร

ในช่วงที่เศรษฐกิจซบเซา การจัดอีเว้นต์จึงไม่มีมากนัก แต่ในฐานะที่เขาเป็นหัวเรือใหญ่ของบริษัท จึงมีการวางแผนการบริหารเงินได้เป็นอย่างดี โดยการสำรองเงินเผื่อไว้ยามฉุกเฉินมา 5-6 ปีแล้ว พอช่วงที่สถานการณ์ของประเทศไม่สู้ดีนัก จึงสามารถนำเงินส่วนนี้มาเลี้ยงพนักงานได้ 2 ปีแบบสบายๆ ทั้งที่ยังไม่มีงานเข้ามาให้ทำ และไม่ต้องให้พนักงานลาออก

อีกทั้งการบริหารคนในแบบตือ สมบัษร เขาจะให้ความสำคัญกับพนักงานทุกกคน เมื่อทำงานหนักก็ต้องได้ค่าตอบแทนที่คุ้มค่า ซึ่งไม่นานนี้ก็จัดทริปพาทุกคนไปเที่ยวฝรั่งเศส ตั้งแต่ผู้จัดการ โปรดิวเซอร์ ไปจนถึงแม่บ้าน โดยทุกคนที่ทำงานจะต้องให้ความเคารพนับถือกันและกัน หัวหน้าแผนกบัญชีก็ต้องไหว้แม่บ้านที่อายุมากกว่า

ตือ-สมบัษร

ในส่วนการทำงานกับลูกน้อง เขาเล่าว่าไม่เคยถามลูกน้องเลยว่างานวันนี้ได้เงินเท่าไหร่ อย่างมากจะถามว่าเหลือกำไรหรือเปล่า พอทราบตัวเลขก็จบ แล้วเริ่มทำงานใหม่ต่อ บางงานขาดทุนเพราะออกเงินเพิ่มเองก็มี แต่ก็ทำเพราะไม่อยากทำงานแบบส่งๆ เพราะลูกค้าอาจไม่ได้มองว่าที่ผ่านมาเราจัดงานดีแค่ไหน เขาดูเฉพาะงานวันนี้ ดังนั้นทุกงานจะต้องดีหมด เพื่อช่วยต่ออนาคตให้กับครั้งต่อไปได้

อาจไม่มีทฤษฎีหรือหลักการอะไรที่ชัดเจนนักสำหรับการทำงานให้ประสบความสำเร็จในแบบเขา เพราะทุกสิ่งที่เล่ามาล้วนเกิดจากวิธีคิด และลงมือทำ จากความชอบแปรเปลี่ยนเป็นความใส่ใจในรายละเอียด จุดนี้ล่ะมั้งที่ทำให้ชื่อของนักจัดอีเว้นต์ชื่อดังคนนี้ยังคงเป็นที่หนึ่งที่หลายคนอยากทำและอยากเป็นให้ได้แบบเขา

เรียบเรียง : แพรวดอทคอม
ที่มา : คอลัมน์สัมภาษณ์ นิตยสารแพรว ฉบับ 863 วันที่ 10 สิงหาคม 2558

Twitter : sriploi17

 

ติดตามอัพเดตเรื่องราวต่างๆจากนิตยสารแพรวให้สนุกยิ่งขึ้นได้ที่

www.facebook.com/praewmagazine

Instagram : @praewmag

และติดตามอ่าน แพรว E-Magazine ได้แล้ววันนี้เพียงดาวน์โหลดแอพพลิเคชั่น

  • Praew E-magazine
  • NaiinPann
  • Ookbee

Praew Recommend

keyboard_arrow_up