account_circleก้าวสู่ปีที่ 6 ชวมณฑ์ ปวโรดม ไม่เคยหยุดพัฒนา
ดูแลธุรกิจกระเป๋าแบรนด์ S’uvimol สิ่งสำคัญเลยคือ โฟกัสปัจจุบัน
ดูแลธุรกิจกระเป๋าแบรนด์ไทย S’uvimol (สุวิมล) โด่งดังทั้งในไทยและต่างประเทศจนตอนนี้ขึ้นสู่ปีที่ 6 แล้ว ซึ่งแพรวดอทคอม ก็ได้มีโอกาสพบกับสาวหมวยสวยเก่ง เจ้าของแบรนด์อย่าง คุณฝน-ชวมณฑ์ ปวโรดม ในงาน “NEVERSURRENDER by L’Oreal Revitalift” ที่สยามพารากอนเมื่อวันก่อนพอดี จึงไม่พลาดที่จะเข้าไปอัพเดทถามไถ่
แม้จะเป็นทายาทคนโตของคุณวิบูลย์-พัชรพิมล ปวโรดม ผู้บุกเบิกกระเป๋าแบรนด์ดังของไทยนาม S’uvimol (สุวิมล) และหลานสาวของคุณตา อุทัย ยังประภากร เจ้าของฟาร์มจระเข้และสวนสัตว์สมุทรปราการ ที่มีแบ็คกราวน์ชีวิตระดับที่ดี แต่เซเลบสาว ฝน-ชวมณฑ์ ก็ไม่ได้นิ่งนอนใจ เพราะหลังจากสำเร็จการศึกษาปริญญาตรี ด้าน Industrial Design ที่ Rhode Island School of Design ประเทศสหรัฐอเมริกา คุณฝนก็เข้ามาสานต่อธุรกิจกระเป๋าแบรนด์สุวิมล ซึ่งปัจจุบันก็ยังคงหมั่นพัฒนาตัวเองและขยันทำธุรกิจให้ดียิ่งๆ ขึ้นไปอย่างต่อเนื่อง รวมถึงให้ความใกล้ชิดตอบไลน์ลูกค้าเอง ติดต่อประสานงาน และไปดูแลหน้าร้านเองเป็นประจำ
ทัศนคติในการทำงานให้สำเร็จของสาวคนนี้ รวมถึงไลฟ์สไตล์ส่วนตัวเป็นอย่างไร วันนี้ แพรวดอทคอม จะพาไปทำความรู้จักเธอกัน
ฉีกไอเดียการดีไซน์ใหม่จากกรอบเดิมๆ กลายมาเป็นคอลเล็คชั่นกระเป๋าล่าสุด
จากแต่เดิม สาวๆ จะเห็นทรงกระเป๋าแบรนด์ S’uvimol ของคุณฝนส่วนใหญ่เป็นทรงเรขาคณิต ซึ่งคอลเล็คชั่นล่าสุดอย่างรุ่น Toffee (ท็อฟฟี่) คุณฝนได้ดีไซน์ออกมาเป็นทรงกลมทรงแรกของแบรนด์ “ใช่ค่ะ ตอนนี้แบรนด์ S’uvimol ที่ฝนทำนะคะ มีคอลเล็คชั่นใหม่ล่าสุดชื่อรุ่นว่า Toffee (ท็อฟฟี่) เป็นกระเป๋า bucket bag เป็นทรงกลมแรกของแบรนด์เลย แล้วก็หนังวัวที่ใช้ข้างบนเป็นหนังแบบเอ็กโซติก (Exotic) นิ่มมากๆ เป็นรุ่นรูดเปิดปิดง่าย อยากให้เข้าไปได้ลองชมกัน น่ารักมาก”
จากทรงเรขาคณิตลองเปลี่ยนมาเป็นทรงกลมครั้งแรกได้รับแรงบันดาลใจมาจากอะไร
“คือส่วนใหญ่ S’uvimol จะสตรองเรื่องการออกแบบกระเป๋าทรงเรขาคณิต ทีนี้ฝนก็มานั่งดูว่า ทรงสี่เหลี่ยมผืนผ้าก็มี ทรงสามเหลี่ยมก็มี สี่เหลี่ยมก็มี สตรองไปแล้ว แต่ยังไม่มีทรงกลมเลย แล้วเราออกแบบ bucket bag ซึ่งปีนี้มาแรงมาก แต่ส่วนใหญ่จะเป็นแนวสานๆ แต่ยังไม่เคยมีใครทำหนังแบบเอ็กโซติก ก็เลยอยากมาทำเป็นหนังงู หนังจระเข้ หนังนกกระจอกดูค่ะ”
มีวิธีจัดการตัวเองเวลาเหนื่อยอย่างไร เพราะดูแลงานเองหลายส่วน
“ก็เหนื่อยแต่ว่าสนุกค่ะ เราก็ต้องวางระบบ จัดการให้ดี จะได้ไม่หลุด เพราะว่าขายของพวกนี้ มันเป็นของมีราคาก็ต้องดูแลระบบให้ดี เพราะก็เป็นชื่อเสียงของแบรนด์ด้วย”
ดูแลธุรกิจเข้าสู่ปีที่ 6 แล้ว จากช่วงเริ่มต้นจนถึงปัจจุบันนี้ มีแพลนที่อยากทำอะไรเพิ่มอีกไหม
“ค่ะ จริงๆ ฝนอยากให้ S’uvimol มีอยู่ในทุกเมืองที่เป็นแฟชั่นซิตี้ อย่างเช่นอยากให้มีที่โตเกียว ลอนดอน ปารีสอย่างนี้ ตรงนี้ก็เป็นสิ่งที่เราพยายามทำต่อไป ตอนนี้มีที่ดูไบ คูเวต แล้วก็นิวยอร์กค่ะ ส่วนที่อยากปรับปรุง โอ้ ก็อยากปรับปรุงเยอะแหละเนอะ ทำงานมามันก็ไม่ได้ถูก หรือเพอร์เฟคไปหมดอย่างนี้ค่ะ”
ข้อดีของเรานี่แหละ ที่ทำให้การทำงานดำเนินไปในทิศทางที่ดีจนถึงปัจจุบัน
“จริงๆ ฝนว่าข้อดีของฝนคือ ฝนเป็นคนที่ค่อนข้างปรับตัวได้เร็ว แล้วก็ค่อนข้างเป็นคนที่ไม่ได้ยึดติดว่า ต้องเป็นแบบนี้ไปตลอดไป ต้องทำแบบนี้ อะไรที่โลกเปลี่ยนไปแล้ว หรือว่ามันมีสิ่งที่ดีกว่า มีสิ่งที่สมควรทำมากกว่า เราก็ยินดีที่จะปรับเปลี่ยนตัวเองให้ทันโลก อย่างเช่นตอนเปิดแบรนด์มาแรกๆ อ่ะค่ะ กำลังการผลิตยังไม่พอ เพราะว่าเราก็เพิ่งเปิดมา คนอยากได้กระเป๋า เราก็ต้องรับออเดอร์ หรือว่าเรารู้ว่าช่วงนั้นคนชอบมิกซ์แอนด์แมทช์เอง เราก็ให้คนเลือกสีเองได้ เลือกซับในเองได้ คือเราก็ต้องปรับเปลี่ยน ไม่ใช่ไม่เอา ไม่รับออเดอร์ ไม่มีของไปขายอย่างนี้ ก็ไม่ใช่ หรือมาถึงยุคที่คนไม่อยากรับออเดอร์แล้วก็ต้องทำออกมา เพราะคนอยากจะหิ้วกลับไปเลย”
คุณพ่อ คุณแม่ ท่านก็ยังเป็นกำลังใจและคอยสอนเรื่องการทำงาน การใช้ชีวิตเสมอ
“ใช่ๆ ใช่ค่ะ ฝนเป็นคนสนิทกับคุณพ่อคุณแม่ ท่านก็จะสอนอยู่ มีทะเลาะกันด้วย (หัวเราะ) ทะเลาะกันเรื่องงานนี่แหละ ความคิดเห็นไม่ตรงกันบ้าง แต่ว่าท่านก็จะแนะนำมา อะไรที่เราปรับได้ เราก็จะเอาไปทำ แต่ส่วนใหญ่สิ่งที่แนะนำมาก็จะเป็นสิ่งที่ดีๆ ทั้งนั้นค่ะ”
เห็นโหมดนักธุรกิจสาวแบบนี้ แล้วไลฟ์สไตล์ส่วนตัวชอบทำอะไรบ้าง
“เป็นคนชอบเที่ยวไหม จริงๆ ก็ชอบท่องเที่ยวนะคะ แล้วก็ชอบไปวัด (หัวเราะ) แต่แต่งตัวไม่ค่อยสวยไง เลยไม่ได้ลงรูป (หัวเราะ) แล้วก็ชอบวาดรูป อยู่บ้านอย่างนี้ค่ะ (ยิ้ม) ส่วนถ้าเป็นวันว่าง ตอนเช้ามีไปทำบุญ ไปดูหนังบ้าง ไปเดินเล่น หรือบางทีก็มีไปบริจาคเลือด (ยิ้ม) ส่วนใหญ่ก็จะเน้นพักผ่อนมากกว่าค่ะ”
ช่วงที่ผ่านมาเห็นแต่งชุดไทยบ่อยมาก รวมถึงยังมีแต่งชุดไทยขึ้นรถตุ๊กๆ ด้วย
“อ่อใช่ (หัวเราะ) แต่งชุดไทยขึ้นรถตุ๊กๆ อันนั้นเป็นงานที่คุณแม่ได้รับรางวัลเกี่ยวกับนักธุรกิจสตรีค่ะ แล้วธีมงานนั้นเป็นชุดไทย แล้วปีนี้ชุดไทยมาแรงมาก เราก็เลยต้องใส่ชุดไทยไปงานรับรางวัล แต่ว่ารถติด เราก็เลยรู้สึกโอเค นั่งตุ๊กๆ ไปล่ะกัน สนุกดีค่ะ”
เป็นสาวทำงานแบบนี้ มีการดูแลตัวเองอย่างไร
“ถ้าในเรื่องสุขภาพ ปกติฝนก็จะเล่นพิลาทิศค่ะ เพราะว่าพิลาทิศจะช่วยสร้างกล้ามเนื้อ แล้วสมัยก่อนเรามีปัญหาเป็นคนหลังค่อม มันก็จะช่วยจัดกระดูกเราให้ดี เพราะถ้าเราแข็งแรงตั้งแต่ตอนนี้ ตอนโตขึ้นไปจะได้ไม่มีปัญหาข้อกระดูก กล้ามเนื้อก็จะแข็งแรงด้วยค่ะ”
ถ้าสาวๆ อยากจะเริ่มทำธุรกิจ สนใจด้านกระเป๋าบ้าง คุณฝนมีข้อคิดที่อยากแนะนำอย่างไรบ้าง
“ฝนว่าถ้าอยากทำอะไรแล้ว ไม่ต้องไปคิดเยอะก็ได้ ว่าเหย มันจะโอเคไหม มันจะได้กำไรมากน้อยแค่ไหน ลูกค้าจะเอาหรือเปล่า คือคิดก็ดี แต่บางทีถ้าคิดเกินไปแล้วไม่ทำ ก็จะมีคนทำไปแล้ว เราต้องทำไปเลย พอถึงตอนที่เราทำเราจะรู้เองว่า มันมีปัญหาอะไรบ้าง หรือสิ่งที่เราทำนั้นมาถูกทางไหม ถ้าเราไม่ทำเราก็จะไม่รู้ ฝนว่าทุกๆ ธุรกิจเริ่มต้นเกิดมาจากการทำ ทำแล้วเดี๋ยวมันจะต่อยอดไปได้เรื่อยๆ ค่ะ”
สุดท้ายชีวิตที่โฟกัสกับปัจจุบัน นี่แหละคติประจำใจที่สำคัญในการใช้ชีวิตของ ชวมณฑ์ ปวโรดม
“ในการใช้ชีวิตฝนว่าควรอยู่กับปัจจุบัน มีความสุขกับปัจจุบัน โฟกัสกับปัจจุบัน เช่นบางทีถ้าเราไปคิดเรื่องในอดีตว่าทำไมเราทำไม่ดีเลยนะ โอเคเราเข้าใจแล้วจบ เราต้องเดินหน้า อย่าไปคิดกังวลเรื่องอนาคตเกินไปว่า เดี๋ยวอีก 5 ปีไม่มีใครอยากได้กระเป๋าแล้ว จะทำยังไง คือเราทำวันนี้ให้ดีที่สุด มันก็จะเป็นผลของวันหน้าค่ะ (ยิ้ม)”
เรื่อง: บะหมี่กุ๊งกิ๊ง_แพรวดอทคอม
ภาพ: จักรพงษ์ นุตาลัย, IG @fonnsuvimol