จัดว่าเด็ด! หน่อง อรุโณชา กับ 5 ปีเต็มในการทวงคืนบัลลังก์ผู้จัดละครอันดับ 1

วันนี้ชื่อของ หน่อง อรุโณชา ภาณุพันธ์ ถือว่าขึ้นทำเนียบผู้จัดละครอันดับ 1 อันเป็นผลมาจากความสำเร็จอย่างสูงของละคร ‘บุพเพสันนิวาส’ 

อย่างที่คอละครทุกคนทราบกันดีอยู่แล้วว่า นอกจากความดีงามของละครที่มีมากมายนับไม่ถ้วน ห้วงเวลาที่ออกอากาศ ‘บุพเพสันนิวาส’ ยังสร้างปรากฏการณ์สั่นสะเทือนวงการละครอีกหลากหลาย ตัวอย่างเช่น เพียงออกอากาศแค่ 3 ตอนแรก ก็ติดอันดับท็อปเทรนด์โลกในทวิตเตอร์ สร้างสถิติเรทติ้งสูงสุดให้ช่อง 3 ยังไม่รวมยอดชมย้อนหลัง  ปลุกกระแสการนำภาษาไทยสมัยอยุธยามาใช้พูดคุยในชีวิตประจำวันและโลกออนไลน์อย่างสนุกสนาน ตามมาด้วยค่านิยมการแต่งชุดไทย การตามรอยไปเยี่ยมสถานที่จริงในประวัติศาสตร์ ที่สำคัญคือ ละครไทยเรื่องนี้ ได้รับการแปลซับไทเทิลแล้วไม่ต่ำกว่า 5 ภาษา

แต่กว่าจะยึดหัวหาดสร้างปรากฏการณ์ที่เป็นกระแสสูงสุดได้เฉกเช่นวันนี้ หน่อง อรุโณชา ก็ผ่านร้อนผ่านหนาวมาอย่างโชกโชน ด้วยผลงานการจัดละครที่มีทั้งฟาก ‘แป้ก’ และ ‘ปัง’

ยี่สิบห้าปีเต็มที่เธอฝากฝังฝีมืองานจัดละคร ภายใต้ชื่อบริษัท บรอดคาซท์ ไทย เทเลวิชั่น จำกัด ผลงานเรื่องแรกคือ หวานมันส์ วันอลวน ที่มีคู่พระนางชื่อดังของยุคนั้น เคิร์ก โรลลิ่ง และสายธาร นิยมการณ์ มาแสดงนำ ได้กระแสตอบรับจากผู้ชมในเกณฑ์ดี และทำให้ช่อง 3 ให้คะแนน ‘ผ่าน’ ต่ออาชีพ ‘ผู้จัดละคร’ และนั่นทำให้เธอได้ทำงาน ‘เสกสรรปั้นแต่ง’ ละครให้ผู้ชมเสพอย่างต่อเนื่อง โดยมีผลงานค่อนไปทางฟาก ‘ปัง’ มากมาย อาทิ ‘ดอกส้มสีทอง’ ปี 2554 ที่ทำให้ดอกไม้ติดผมดอกใหญ่ๆ ขายหมดพาหุรัด เพราะทุกคนแห่กันซื้อดอกไม้ใหญ่ๆ ติดผมตามแบบ ‘เรยา’ ตามมาด้วยความสะพรึงกันทั่วราชอาณาจักรกับ ‘ผีอีแพง’ จากละครเรื่อง ‘บ่วง’  รวมทั้งที่มีสาวๆ หลายคนลุกขึ้นมาทำผมทรงเดียวกับอีแพง และปรากฏการณ์วันแรงเงาแห่งชาติ’ ที่ทำให้ถนนในกรุงเทพฯ โล่งมาก เพราะทุกคนรีบกลับบ้าน ไปดูละคร ‘แรงเงา’ เมื่อปี 2555

‘ดอกส้มสีทอง’ ปี 2554 หนึ่งในผลงานชิ้นปังของ หน่อง อรุโณชา

'บ่วง' ปี 2555 หนึ่งในผลงานชิ้นปังของ หน่อง อรุโณชา

'แรงเงา' ปี 2555 หนึ่งในผลงานชิ้นปังของ หน่อง อรุโณชา

แต่เวลาเปลี่ยน ใดๆ ก็เปลี่ยน โดยเฉพาะเมื่อวงการทีวีไทยเปลี่ยนจากการแพร่ภาพในระบบอะนาล็อกไปเป็นระบบดิจิตอล พร้อมๆ กับวิถี วิธี และสไตล์การเสพสื่อของผู้คนที่เปลี่ยนไป ละครที่อยู่คู่วัฒนธรรมไทยมาช้านานกลายเป็นความคุ้นชินว่าไม่ต้องดูสด อยากดูเมื่อไหร่ก็มีช่องทางออนไลน์มาเอื้อ ทำให้คนทำละครประสบกับภาวะหืดขึ้นคอ เพราะทำแทบตาย ลงทุนแทบบ้า ดึงดาราแม่เหล็กมารวมจอคับคั่งแค่ไหนก็ไม่เปรี้ยง  ซึ่งบรอดคาซท์ฯเองก็จ่อมจมอยู่ในภาวะนี้ถึง 5 ปีเต็ม กระทั่งมาถึงวัน ‘บุพเพสันนิวาส’ ที่ทำให้เธอสามารถทวงคืนบัลลังก์ผู้จัดละครอันดับ 1 กลับมาครองได้อีกครั้ง

และนี่คือถ้อยคำจากใจทั้งหมดของผู้จัดฯ คนเก่ง หน่องบรอดคาซท์ฯ

“ทั้งหมดนี้น่าจะมาจากส่วนผสมทั้งหมดที่ลงตัว อย่างแรกคือ บทประพันธ์ที่ดี และได้รับความนิยม จนมีผู้อ่านส่งอีเมล์มาที่บรอดแคสท์ตั้งแต่ปี 2553 ว่า อยากให้เราทำละครเรื่องนี้ ต้องขอบคุณนะที่เขาคิดถึงเรา อยากให้เราเป็นผู้ผลิต ขอบคุณโปรดิวเซอร์ที่ติดต่อ ‘คุณรอมแพง’ เพื่อซื้อลิขสิทธิ์บทประพันธ์มาผลิตเป็นละครอย่างรวดเร็ว เพราะหลังจากซื้อแล้ว มีคนอีกมากมายอยากได้บทประพันธ์เรื่องนี้ไปทำละคร พอได้เรื่องมา ดิฉันเอามาอ่านแล้วก็ชอบ มองเห็นทางว่าถ้าเอาเรื่องนี้มาทำเป็นละครจะสนุกอย่างไร ทำออกมาแล้วน่าจะโดนใจผู้ชม จึงทำเรื่องย่อให้ช่อง 3 พิจารณา ซึ่งเป็นจังหวะเดียวกับที่มีผู้อ่านโหวตให้เป็นนิยายที่อยากให้สร้างเป็นละครมากที่สุด

“แต่กว่าจะออกมาเป็นละครเรื่องนี้ ยากทุกขั้นตอน ทั้งผู้ประพันธ์ ผู้เขียนบทละคร ต้องค้นคว้าหาข้อมูลทางประวัติศาสตร์นานมาก กว่าจะเขียนออกมาได้ เฉพาะขั้นตอนทำบทละครโทรทัศน์ ใช้เวลาสองปี ใช้เวลาผลิตอีกสองปี ตัดต่อก่อนนำมาออกอากาศ ก็ผ่านไปห้าปีแล้ว แต่จะเห็นว่าสิ่งดีของความเป็นละครพีเรียดเรื่องนี้ คือ ไม่เชย คำพูดของ ‘เกศสุรางค์’ ในร่างของการะเกด เช่น คำว่า ‘โอเค’ ยังเป็นคำมาตรฐานที่เราพูดกัน หรือการที่อาจารย์ศัลยาผู้เขียนบทฯ เสริมคำใดๆ เข้ามา แล้วเป็นคำที่ยังอยู่ไปได้ตลอด ที่สำคัญคือทำให้แฟนละครซีรีส์เกาหลีซึ่งส่วนใหญ่เป็นวัยรุ่น หันมาชมละครยุคโบราณของไทยได้ ก็รู้สึกดีใจ

Related image

“และเนื่องจากเป็นละครแนวประวัติศาสตร์ รัก โรแมนติก ดิฉันจึงบรีฟผู้กำกับฯตั้งแต่ต้นว่า อยากให้ทุกอย่างเป็นไปตามบทประพันธ์ สวยงามสมจริงตามสมัย ประเด็นคือยุคสมัยของสมเด็จพระนารายณ์มหาราช เป็นยุคเดียวที่ยังไม่เคยมีใครสร้างเป็นละคร นี่จึงเป็นละครเรื่องแรกในประวัติศาสตร์ละคร การสร้างของใช้ หรืออุปกรณ์ใดๆ ทั้งหมด จึงต้องทำขึ้นมาใหม่ อย่างการถ่ายฉากเครื่องกรองน้ำ ทีมงานทุกภาคส่วนต้องศึกษาข้อมูลหมด ฝ่ายอุปกรณ์ประกอบฉาก ต้องหาภาพจากพิพิธภัณฑ์เพื่อมาดูว่า สมัยกรุงศรีอยุธยามีเครื่องกรองน้ำอย่างที่แม่การะเกดทำจริงๆ

Related image

“หรือการถ่ายทอดฉากท้องพระโรงสมัยสมเด็จพระนารายณ์มหาราช รับพระราชสาสน์จากพระเจ้าหลุยส์ที่ 14 ทีมงานต้องหาภาพในประวัติศาสตร์ เพื่อสเก็ตช์ภาพสตอรี่บอร์ดออกมา เรียกว่าทำงานเหมือนงานโฆษณา ใช้ทีมงานเป็นร้อยคน เพื่อสร้างทุกอย่างให้เหมือนภาพที่เราเคยเห็นตอนเรียนประวัติศาสตร์

“การออกแบบเสื้อผ้าหน้าผมก็เป็นเรื่องใหญ่ มีการค้นคว้าข้อมูลก่อนลงมือ อย่างทรงผมยุคนั้นมีสี่ทรง เราทำครบทุกทรง แม้แต่สิ่งที่ได้เห็นตอนท้ายเรื่องแค่แวบเดียวคือชุดไทยที่การะเกดใส่ในฉากวันแต่งงาน เราก็บรรจงออกแบบอย่างงดงามมาก นี่ยังไม่รวมความสวยงามในสมัยอยุธยาที่ปรากฏอยู่ในละคร ที่เราตั้งใจทำให้คนไทยภาคภูมิใจว่า บรรพบุรุษของเรามีงานศิลปะสวยงามให้ลูกหลานได้สืบทอด

Image result for บุพเพสันนิวาส แต่งงาน

“ขณะเดียวกัน ต้องบอกว่าทีมงานทั้งหมด นักแสดงและทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้อง ต่างทำหน้าที่และทำการบ้านของตัวเองเป็นอย่างดี ผู้กำกับการแสดง คุณใหม่ ภวัต (พนังคศิริ) มีความละเอียด และครีเอทีฟมาก เช่น เห็นว่าควรเสริมบางอย่างระหว่างถ่ายทำให้สนุกขึ้น อย่าง ตอนอีผินอีแย้มโดนตบจนหน้าเขียวปูด เอาแต่ก้มหน้า แล้วถูกคุณหญิงจำปาต่อว่า “ฉันพูดกับแก ทำไมไม่พูด” พอสองคนเงยหน้าขึ้นพร้อมกัน ปรากฏว่าหน้าเขียวช้ำ ปูดหมดเลย ซีนนี้บ่งบอกเลยว่าละคร บุพเพสันนิวาส มีอารมณ์ขัน การทำงานเบื้องหลังก็สนุกมาก จนต้องนำ Behind the Scene มาออกทุกตอนหลังละครจบ อย่างคลิปแรกที่ปล่อยออกไป ‘ตุ๊กแกขั้นเทพ’ พี่หนิง (นิรุตติ์ ศิริจรรยา) พูดกับโป๊ป (ธนวรรธน์  วรรธนะภูติ) แล้วมีเสียงตุ๊กแกร้องเป็นจังหวะ จนไปต่อไม่ได้ บอกเลยว่าการทำงานเบื้องหลังนี่ฮากันตายไปข้าง

“แต่ถึงจะตั้งใจเพียงไร การได้เลขเรตติ้งละครสองตัวมาครั้งนี้ก็ยังเป็นสิ่งเกินคาดคิด แต่ตัวเลขที่ได้ก็ยังไม่เท่าความภาคภูมิใจที่มีผู้ชมเดินมาบอกเราว่า เขาดูละครแล้วชอบ มีความสุข เพราะนี่แหละคือของขวัญที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของคนทำละครแล้วค่ะ”

 

 

ที่มาภาพ : IG@nong_arunosha และ Lakorn Online ละครออนไลน์

 

 

Praew Recommend

keyboard_arrow_up