ฟังแล้วรู้เลยรัก “แอน” มากแค่ไหน? รวบ4ประโยคละมุนจากปากหนุ่มไม้เลื้อยชื่อ“ชาคริต แย้มนาม”

  • สั้นๆ 4 ประโยคของ“ชาคริต แย้มนาม”พูดถึง“แอน-ภัททิรา รุ่งโรจน์”แม่ของลูกแบบหวานมาก พูดเลย!ไม่ต้องบอกก็รู้รักมากแค่ไหน
แอน-ภัททิรา รุ่งโรจน์

หลังจากปิดปากเงียบมาร่วมสัปดาห์ล่าสุด“ชาคริต แย้มนาม”ได้ฤกษ์ออกมาเคลียร์ข่าวเรื่องแต่งงานหน2กับ “แอน – ภัททิรา รุ่งโรจน์” โดยในรายการข่าวOne บันเทิง นักแสดงหนุ่มๆได้ตั้งโต๊ะเปิดกับสื่อมวลชนอย่างชัดเจนและตรงไปตรงมาในหลายๆประเด็น เริ่มจากการยอมรับว่ามีแพลนจะเข้าวิวาห์หนสองจริงในวันที่ 8 พ.ย.นี้ที่จังหวัดจันทบุรีบ้านเกิดของฝ่ายหญิง ต่อมาในประเด็นที่ว่าท้องนั้นเจ้าตัวก็ยอมรับอีกเช่นกันและให้รายละเอียดว่าเธอตั้งครรภ์3เดือนแล้ว และเดิมทีท้องนี้เป็นลูกแฝดแต่เมื่อไม่นานมานี้หลุดไป1คนซึ่งดาราหนุ่มรู้สึกเสียใจมากเมื่อพูดถึงน้ำตาก็รื้นขึ้นมาทันที ในส่วนประเด็นที่ว่าคบทับซ้อนนั้นเจ้าตัวยืนยันว่าได้เริ่มคุยกับ แอน หลังจากที่เซ็นใบหย่ากับสาววุ้นเส้นเรียบร้อยแล้วด้วย

นอกจากความชัดเจนที่มากกว่าเมื่อก่อนแล้ว อีกสิ่งหนึ่งที่สัมผัสได้ในวันนี้คือเมื่อพูดถึงชื่อของว่าที่ภรรยาเขามักจะยิ้มทุกครั้ง และเหนือสิ่งอื่นใดคือหลายประโยคที่สื่อถึงน้องแอนชาคริตพูดได้อย่างน่าฟังแบบไม่ต้องบอกซ้ำเลยว่าเขารักเธอมากแค่ไหน


“ทุกอย่างรีแลกซ์ไปหมด สบาย มีกำลังใจ เป็นเพื่อนคู่คิดที่คุยได้ทุกเรื่อง”

ประทับใจอะไรในตัวน้องแอน?

ชาคริต : มีหลายเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น 1 ปีกว่าที่ผ่านมา ทั้งคุณแม่และงาน เวลาเราก็ค่อนข้างจะไม่มี เราก็โทรคุยกัน แล้วก็เฟดหายไป ยั้งๆ ไว้ ก็เป็นเพื่อนนะ สักพักก็โทรหาเขา ส่งแมสเซส ก็เริ่มต้นจากการเป็นเพื่อน แล้วรู้สึกเฟดดีกว่า แต่ก็ไม่รอด เป็นแบบนี้ตลอด เป็นเพื่อนคุย เป็นเพื่อนคู่คิดที่คุยได้ทุกเรื่อง รีแลกซ์มาก จนวันหนึ่งอยู่ดีๆ เราก็มาถามกันว่าตกลงเราเป็นอะไรกัน ขณะเดียวกันก็มีเฟดๆ พอสนิทกัน ทุกอย่างรีแลกซ์ไปหมด สบาย มีกำลังใจ เขาอาจจะอายุน้อยกว่าเรา แต่หลายอย่างที่เขาสอนเราเยอะ เขาทำให้เราใจเย็น ทำให้เราไม่เครียดกับสภาวะหลายๆ อย่างที่ผมเจออยู่ อย่างเรื่องคุณแม่ป่วย ซึ่งการที่เขาเข้ามาไม่ได้มาแบบเป็นห่วงเป็นใยจ๋า ทุกอย่างลงตัวหลายๆ เรื่อง จนมาคิดว่าก็ลองคบกันดู ระยะผ่านมาพอสมควร ตั้งแต่ต้นปีนี้ แล้วก็นั่งคุยกันว่าเราก็อายุเยอะแล้ว แต่การที่คนให้ความสนใจเราเยอะขนาดนี้ ทำให้ผมรู้สึกเหมือนว่าผมอายุ 22 ปี ทั้งที่ผมอายุจะ 40 ปีแล้ว และน้องก็อายุ 30 กว่าปีแล้ว


“เราบอกว่าหวังว่าวันนั้นมาถึงเขาจะไม่วิ่งหนีนะ”

ส่วนตัวอยากมีลูกอยู่แล้ว?

ชาคริต :อายุเราปูนนี้แล้วยังต้องรออีกหรอ ต่างคนต่างผ่านชีวิตในแบบของตัวเอง เราเลยตัดสินใจอยู่แบบนี้แบบสบายๆ แต่มันจะไม่แค่นั้น เพราะพอออกไปคนอื่นต้องรู้ เราก็บอกหวังว่าวันนั้นมาถึงเขาจะไม่วิ่งหนีนะ เพราะมีข่าวมาเยอะมาก เราตัดสินใจในเมื่อเราเป็นคนสาธารณะสักวันสื่อก็ต้องรู้ เลยตัดสินใจเข้าไปกราบที่บ้านเขา เพื่อผูกข้อไม้ข้อมือฝากเนื้อฝากตัวเป็นอีกคนของครอบครัว ช่วงเดือนที่ผ่านมาเห็นเกลือไปไหนมาไหนกับแฟนแล้วดูมีความสุข ทำให้เราคิดว่าถ้าเรามีหลานก็ดีนะ แม่จะได้หายป่วย มีหลานสักที และผมอยากมีครอบครัวที่เพอร์เฟคตั้งแต่อายุ 17 อยู่แล้ว ผมรักเด็ก ก็ยังพูดกับแฟนอยู่เลยว่าระวังได้ลูกแฝดนะ  หากเราไม่มีลูก ที่ทำทั้งหมดจะทำไปเพื่อใคร


“ตัวผมเองก็ไม่เหลือใคร แม่ก็ป่วย ได้เขามาอยู่ มาคุย มาเป็นเพื่อนมันลงตัว”

วินาทีที่ทราบว่าตัวเองมีลูก?

ชาคริต : ผมก็บอกว่าเช็คสิ เช็คก่อนเลย พอเช็คขั้นต้น พอขึ้นขีดเฮเลยดีใจมาก เราเพิ่งรู้สึกสภาวะกับสิ่งที่เราคิดมาเอง ดีใจมาก ก็นัดหมอ ตื่นเต้น ปรากฏว่าไข่สองใบ เป็นแฝด แล้วเหมือนกับสิ่งที่เราฝัน ผมเคยคิดตลอดว่าผมอยากได้แฝด ผู้ชายชื่อบอดี้ ผู้หญิงชื่อสกาย แต่พอลูกเกด-เมทินี กิ่งโพยม มีน้อง เขาเอาชื่อลูกไปแล้ว ผมตั้งชื่อลูกไว้ตั้งแต่เด็ก ดีใจมาก แต่หมอก็บอกว่าด้วยอายุ ที่ค่อนข้างเยอะพอสมควร ต้องระวังนะ ก็ต้องเข้าไปไหว้คุณพ่อคุณแม่ ก็ตื่นเต้น อันนี้เข้าไปสองเรื่อง เรื่องแรกกะจะเรียนแบบนี้ กลายเป็นว่าคุณพ่อคุณแม่เขาน่ารักมาก เขาดีใจ ถึงเวลาที่เขาจะมีได้แล้ว เขาก็ห่วงและกลัวมาตลอดว่าแอนจะไม่มีหลานให้ อีกอย่างตัวผมเองก็ไม่เหลือใคร แม่ก็ป่วย ได้เขามาอยู่ มาคุย มาเป็นเพื่อน มันลงตัวตลอด มันสวยงามมาก


“ผมโชคดีมาก เราก็จะไปด้วยกัน มันไม่ใช่ความผิดใคร เราเป็นคู่ต้องร่วมทุกข์ร่วมสุขด้วยกัน”

หลังจากที่ทราบว่า “น้องแอน”ตั้งท้อง?

ชาคริต :เริ่มกระซิบๆ บางคนพอเริ่มบอกก็บอกว่าให้รอเคล็ด 3 เดือนก่อน แต่ผมไม่ถือ ปรากฏไปอัลตร้าซาวด์ หลุดไปคนหนึ่ง ก็มีร้องห่มร้องไห้ แฟนเขาก็เสียใจ แต่ก็ยังยิ้ม ช่วงนั้นสภาวะจิตใจเขาก็แย่ เราก็แย่ แต่เหลืออีกคน เหลืออีกหัวใจ ก็อยากประคบประหงมให้ดีที่สุด เลยไม่บอกใครดีกว่า ไม่อยากสร้างสภาวะความเครียดให้ใดๆ ทั้งสิ้น อยู่ให้เงียบที่สุด ให้เขาแข็งแรงที่สุด เราเห็นเขาทำงาน ถ่ายละครต่างจังหวัด เขาก็ไปกับรุ่นน้อง โห ตอนเขาโทรมาบอก ใจหดมาก แล้วน้องเขาบอกขอโทษ เขาดูแลลูกไม่ดี (ชาคริตร้องไห้) แต่มันเป็นร่างกายและจิตใจเขา ผมโชคดีมาก เราก็จะไปด้วยกัน มันไม่ใช่ความผิดใคร เราเป็นคู่ต้องร่วมทุกข์ร่วมสุขด้วยกัน มีหลายช่วงที่เราห่วงคุณแม่ ธุรกิจต่างๆ เขาก็ช่วยมาเติมเต็ม ทำงานเก่งด้วย ก็ถือว่าเราโชคดีมาก ทุกอย่างก็ไปตามแพลน ตามสเต็ป แฮปปี้สุดๆ


 

Praew Recommend

keyboard_arrow_up