รู้หรือไม่ว่า เจ้าหญิงญี่ปุ่น เมื่อทรงตัดสินใจสยุมพรกับชายหนุ่มสามัญชน พระองค์จะต้องละจากความเป็นสมาชิกราชวงศ์ ทิ้งพระยศเพื่อไปใช้ชีวิตเยี่ยงประชาชนเคียงข้างคู่ครองตลอดไป ซึ่งตามประวัติศาสตร์ของราชวงศ์ญี่ปุ่นนั้นมีเจ้าหญิงที่ละฐานันดรไปเป็นสามัญชนแล้วถึง 10 องค์ด้วยกัน
ทั้งนี้การตัดสินพระทัยสมรสกับสามัญชน แม้รู้ว่าต้องสละทุกอย่าง ไม่ว่าจะเป็นยศฐาบรรดาศักดิ์ ครอบครัว ความสุขสบายในพระราชวัง และอภิสิทธิ์พิเศษต่างๆ ซึ่งลิสต์นี้แพรวจึงขอไล่เลียงประวัติศาสตร์ตั้งแต่รายแรกมาถึงรายล่าสุด คือเจ้าหญิงอายาโกะ เพื่อให้คุณรู้ไว้เป็นข้อมูล
1.เจ้าหญิงคะซุโกะ เจ้าทะกะ
พระราชธิดาพระองค์ที่สามในสมเด็จพระจักรพรรดิโชวะ และสมเด็จพระจักรพรรดินีโคจุง และทรงเป็นพระเชษฐภคินีในสมเด็จพระจักรพรรดิอะกิฮิโตะ พระประมุของค์ปัจจุบัน ทรงเสกสมรสกับนายโทะชิมิชิ ทะกะสึกะซะ เมื่อวันที่ 21 พฤษภาคม พ.ศ. 2493 ซึ่งนับเป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ที่เจ้าหญิงแห่งราชวงศ์ทรงอภิเษกสมรสกับสามัญชน ทำให้ต้องลาออกจากฐานันดรศักดิ์ตามกฎมณเฑียรบาลญี่ปุ่น ที่ถูกประกาศใช้เมื่อปี พ.ศ. 2490
ทว่าแม้เจ้าหญิงจะทรงทำเพื่อความรักขนาดนี้ แต่การณ์กลับกลายเป็นว่าชีวิตรักของพระองค์ดำเนินไปอย่างไม่ราบรื่นนัก ทั้งคู่ไม่มีบุตร-ธิดา ด้วยกัน และในวันที่ 28 มกราคม พ.ศ. 2509 มีคนพบศพนายโทะชิมิชิ ทะคะสึกะซะ สวามี เสียชีวิตด้วยคาร์บอนโมโนไซด์ในอพาร์ตเมนต์ของอนุภริยาลับที่ชื่อมิชิโกะ มาเอะดะ ในย่านกินซ่า ซึ่งหลายคนเชื่อว่าโทชิมิชิฆ่าตัวตาย
ความโชคร้ายของอดีตเจ้าหญิงยังไม่หมดแค่นั้น ถัดจากการเสียชีวิตของสวามีเพียง 7 เดือน ในวันที่ 22 สิงหาคม พ.ศ. 2509 ได้มีคนบุกรุกเข้าไปยังบ้านและกระทำชำเราพระองค์ เหตุการณ์นี้สร้างความตกพระทัยให้กับจักรพรรดิโชวะเป็นอย่างมาก จึงมีรับสั่งให้อดีตเจ้าทะกะย้ายไปประทับที่พระราชวังโทงู ในอะกะซะกะ จนถึงแก่อนิจกรรมเมื่ออายุ 59 ปี
2.เจ้าหญิงอะยะโกะ แห่งทะเกะดะ
พระธิดาในเจ้าชายสึเนะฮิซะ กับเจ้าหญิงมะซะโกะ ทะเกะดะ และเป็นพระราชนัดดาในสมเด็จพระจักรพรรดิเมจิ ทรงลาออกจากฐานันดรศักดิ์เพื่อสยุมพรกับเคานต์สึเนะมิสึ ซะโนะ มีบุตรด้วยกันสี่คน และสิ้นพระชนม์เมื่อวันที่ 3 กันยายน พ.ศ. 2546 สิริพระชันษาได้ 92 ปี
3.เจ้าหญิงอะสึโกะ เจ้าโยะริ
พระราชธิดาองค์ที่ 4 ในสมเด็จพระจักรพรรดิโชวะ และสมเด็จพระจักรพรรดินีโคจุง หนึ่งในพระภคินีในสมเด็จพระจักรพรรดิอะกิฮิโตะ พระจักรพรรดิองค์ปัจจุบัน โดยพระองค์ทรงลาออกจากฐานันดรศักดิ์เพื่อเสกสมรสกับนายทะกะมะซะ อิเกะดะ บุตรคนโตของเจ้าผู้ครองแคว้นโนะบุมะซะ อิเกะดะ ไดเมียวคนสุดท้ายแห่งโอะคะยะมะ แต่มิได้มีบุตร-ธิดาด้วยกัน กระทั่งปี พ.ศ. 2531 ทรงตัดสินพระทัยเข้าเป็นนักบวชหญิง (Saishu) ของศาลเจ้าอิเซะในจังหวัดมิเอะ และใช้ชีวิตอยู่ที่ศาลเจ้าแห่งนั้นมาจนถึงปัจจุบัน
4.เจ้าหญิงทะกะโกะ เจ้าซุงะ
พระราชธิดาพระองค์เล็กในสมเด็จพระจักรพรรดิโชวะ กับสมเด็จพระจักรพรรดินีโคจุง และเป็นพระขนิษฐาในสมเด็จพระจักรพรรดิอะกิฮิโตะ ทรงลาออกจากฐานันดรศักดิ์เพื่อเสกสมรสกับนายฮิซะนะงะ ชิมะซุ บุตรชายของเคานต์ฮิซะโนะริ ชิมะซุ และมีบุตรด้วยกันหนึ่งคนคือ โยะชิฮิซะ ชิมะซุ
5.เจ้าหญิงยะซุโกะ แห่งมิกะซะ
พระธิดาพระองค์ใหญ่ในเจ้าชายทะกะฮิโตะ เจ้ามิกะซะ กับเจ้าหญิงยุริโกะ พระชายา ทรงลาออกจากฐานันดรศักดิ์แห่งพระราชวงศ์เพื่อสยุมพรกับนายทะดะเตะรุ โคะโนะเอะ น้องชายของโมะริฮิโระ โฮะโซะกะวะ อดีตนายกรัฐมนตรีญี่ปุ่น เมื่อวันที่ 16 ธันวาคม พ.ศ. 2509 และมีบุตรชายด้วยกันเพียงคนเดียวคือ ทะดะฮิโระ โคะโนะเอะ
6.เจ้าหญิงมะซะโกะ แห่งมิกะซะ
พระธิดาในเจ้าชายทะกะฮิโตะ เจ้ามิกะซะ กับเจ้าหญิงยุริโกะ พระชายา โดยพระองค์ทรงลาออกจากฐานันดรศักดิ์เพื่อสยุมพรกับนายทะซะยุกิ เซน ในปีพ.ศ. 2526 มีบุตรชาย 2 คน และธิดา 1 คนคือ อะกิฟุมิ เซน ทะกะฟุมิ เซน และมะกิโกะ เซน
7.เจ้าหญิงซะยะโกะ เจ้าหญิงโนะริ
พระราชธิดาองค์เล็กในสมเด็จพระจักรพรรดิอะกิฮิโตะกับสมเด็จพระจักรพรรดินีมิชิโกะ ทรงเสกสมรสกับนายโยะชิกิ คุโระดะ นักวางผังเมืองโตเกียว พระสหายคนสนิทของเจ้าชายอะกิชิโนะ พระเชษฐาของเจ้าหญิงโดยทั้งสองเคยเจอกันตั้งแต่ยังเป็นวัยรุ่น ผ่านไปหลายปี เมื่อเจ้าชายอะกิชิโนะทรงจัดงานเลี้ยงพระกระยาหารในพระราชวัง เจ้าหญิงซายาโกะก็ได้พบกับนายโยชิกิอีกครั้ง ทำให้ได้สานความสัมพันธ์จนก่อเกิดเป็นความรัก และนำไปสู่การเสกสมรส
วันที่ 15 พฤศจิกายน พ.ศ. 2548 ณ โรงแรมอิมพีเรียล กรุงโตเกียว สมเด็จพระจักรพรรดิ สมเด็จพระจักรพรรดินี มกุฎราชกุมาร มกุฎราชกุมารี พร้อมด้วยพระบรมวงศานุวงศ์ต่างเสด็จมาในพระราชพิธีนี้ถึง 30 พระองค์ และยังมีแขกผู้มีเกียรติร่วมในพระราชพิธีนี้ 120 คน กับมีประชาชนกว่าหนึ่งพันคนเฝ้ารอรับเสด็จบริเวณเส้นทางเสด็จระหว่างพระราชวังหลวงกับโรงแรมนานกว่าครึ่งชั่วโมง ทว่าแม้จะมีพระราชพิธีใหญ่โตเพียงใด พระองค์ก็ต้องทรงลาออกจากฐานันดรศักดิ์ตามการประกาศใช้กฎมนเทียรบาลเมื่อปี พ.ศ. 2490 อยู่ดี
หลังการเสกสมรส อดีตเจ้าหญิงซะยะโกะ ทรงได้รับบำเหน็จจากรัฐบาลญี่ปุ่นจำนวน 150 ล้านเยนสำหรับดำรงชีพ ซึ่งพระองค์ก็ได้ลาออกจากการเป็นนักวิจัยประจำสถาบันปักษีวิทยาเพื่อใช้ชีวิตเป็นแม่บ้าน มีรายงานว่าขับรถและออกไปจับจ่ายซื้อของด้วยพระองค์เอง โดยหากราชวงศ์ญี่ปุ่นมีงานพระราชพิธีสำคัญๆ พระองค์ก็ยังปรากฏกายร่วมด้วยอยู่เสมอ
เดือนเมษายน พ.ศ. 2555 พระองค์ได้รับการแต่งตั้งให้เป็นนักบวชหญิงชั้นสูงประจำศาลเจ้าใหญ่อิเซะ เพื่อช่วยงานอะสึโกะ อิเกะดะ พระปิตุจฉาที่ทรงเป็นหัวหน้านักบวชของศาลเจ้าแห่งนี้
8.เจ้าหญิงโนริโกะ แห่งทะกะมะโดะ
พระธิดาพระองค์กลางในเจ้าชายโนะริฮิโตะ เจ้าทะกะมะโดะ และเจ้าหญิงฮิซะโกะ พระชายา โดยเรื่องราวความรักของพระองค์เริ่มต้นขึ้นเมื่อทรงมีพระชันษาเพียง 19 ปีเท่านั้น กล่าวคือปี พ.ศ. 2550 พระองค์ตามเสด็จเจ้าหญิงฮิซะโกะไปสักการะศาลเจ้าอิซุโมะในจังหวัดชิมะเนะ ทำให้ได้พบกับนายคุนิมะโระ เซ็งเงะ วัย 41 ปี บุตรชายของทะกะมะซะ เซ็งเงะ เจ้าอาวาสของศาลเจ้าแห่งนั้น ทั้งคู่ติดต่อกันเรื่อยมา จนนำไปสู่การหมั้น เมื่อวันที่ 27 พฤษภาคม 2557
5 ตุลาคม ปีเดียวกัน ณ ศาลเจ้าอิซุโมะ สถานที่พบรัก พิธีเสกสมรสระหว่างเจ้าหญิงญี่ปุ่นและหนุ่มสามัญชนได้ถูกจัดขึ้น เจ้าหญิงโนะริโกะในฉลองพระองค์โบราณที่ได้รับตกทอดจากเจ้าหญิงยุริโกะ พระอัยยิกาฝ่ายพระชนก ซึ่งตกทอดมาจากสมเด็จพระจักรพรรดินีเทเมอีกที จากนั้นสำนักพระราชวังอิมพีเรียลก็ได้ประกาศการลาออกจากฐานันดรศักดิ์แห่งพระราชวงศ์ของเจ้าหญิงอย่างเป็นทางการ โดยรัฐบาลได้มอบบำเหน็จเป็นเงิน 106.75 ล้านเยนให้แก่อดีตเจ้าหญิงที่เปลี่ยนพระนามเป็นสามัญชนว่า “โนะริโกะ เซ็งเงะ” หลังจากการจดทะเบียนสมรส
ตามข่าวบอกว่างานเลี้ยงฉลองเสกสมรสเป็นการส่วนพระองค์ในวันที่ 6 ตุลาคม 2557 ณ โรงแรมอิชิฮะตะ เมืองมะสึเอะ จังหวัดชิมะเนะ มีผู้ร่วมงานเฉพาะพระญาติและพระสหายร่วมสถานศึกษา 280 คน และเลี้ยงฉลองเสกสมรสอีกครั้งในวันที่ 8 ตุลาคมปีเดียวกัน โดยมีพระบรมวงศานุวงศ์ญี่ปุ่นเข้าร่วมในการนี้
9.เจ้าหญิงมะโกะ แห่งอะกิชิโนะ
ทั้งนี้ในเดือนพฤษภาคม ปี 2560 ที่ผ่านมา สำนักพระราชวังญี่ปุ่นได้ออกมาประกาศว่าพระธิดาพระองค์โตในเจ้าชายอะกิชิโนะ กับเจ้าหญิงคิโกะ และทรงเป็นพระราชนัดดาในสมเด็จพระจักรพรรดิอะกิฮิโตะ กับสมเด็จพระจักรพรรดินีมิชิโกะ จะทรงสละฐานันดรศักดิ์เพื่อสยุมพรกับหนุ่มสามัญชน
เจ้าหญิงมะโกะทรงมีในวัย 25 ชันษา ได้ทรงสยุมพรในปี 2561 กับนายเค โคะมุโระ อดีตนายธนาคาร ที่จบการศึกษาวิชาเอกกฎหมาย สถาบันมหาบัณฑิตยุทธศาสตร์ความร่วมมือระหว่างประเทศ มหาวิทยาลัยฮิโตะสึบะชิ โดยทั้งคู่พบกันครั้งแรก ณ ร้านอาหารแห่งหนึ่งย่านชิบุยะ ซึ่งหากเป็นไปตามหมายทุกอย่าง…
เจ้าหญิงอายาโกะ แห่งทากามาโดะ
ในปี 2561 ปีเดียวกันกับเจ้าหญิงมะโกะ เจ้าหญิงอายาโกะ แห่งทากามาโดะ หรือ อายาโกะ โมริยะ พระธิดาในเจ้าชายโนริฮิโตะ ทากามาโดะโนะมิยะ กับเจ้าหญิงฮิซาโกะ พระชายาฯ ทรงเป็นเจ้าหญิงองค์ล่าสุดที่ทรงสยุมพรกับ สามัญชน โดยเจ้าหญิงอายาโกะในตอนนั้น นายเคอิ โมริยะ นักธุรกิจหนุ่มซึ่งทำงานอยู่ในนิปปอน ยูเซน บริษัทชิปปิ้งรายใหญ่ของญี่ปุ่น
ซึ่งทั้งคู่ได้เข้าพิธีสยุมพรตามประเพณีของประเทศญี่ปุ่น ณ ศาลเจ้าเมจิ กรุงโตเกียว และหลังจากจบพิธีเสกสมรสของเจ้าหญิงอายาโกะนั้น พระองค์ต้องสละฐานันดรศักดิ์โดยทันที ถึงแม้จะเป็นกฎและธรรมเนียมของราชวงศ์ญี่ปุ่นที่มิอาจจะเปลี่ยนแปลงได้ ซึ่งเจ้าหญิงอายาโกะก็ทรงรับรู้ในข้อนี้ และเต็มใจเป็นอย่างมาก
ด้านนายโมริยะ ได้ให้สัมภาษณ์ว่า เขาจะช่วยเจ้าหญิงอายาโกะในการปรับตัวให้เข้ากับการใช้ชีวิตในแบบสามัญชน เราจะช่วยเหลือซึ่งกันและกัน จับมือไปด้วยกัน และสร้างครอบครัวที่เต็มไปด้วยรอยยิ้ม อีกทั้งเขายังเคยกล่าวไว้เมื่อตอนที่เข้าพิธีหมั้นกับเจ้าเจ้าหญิงอายาโกะว่า “ผมต้องการใช้ชีวิตที่เหลืออยู่ไปกับเธอ”
เจ้าหญิงอายาโกะจะเป็น เจ้าหญิงญี่ปุ่น องค์ที่ 10 ที่ต้องลาออกจากฐานันดรศักดิ์แห่งพระราชวงศ์ตามกฎมณเฑียรบาลญี่ปุ่น
ที่มาข้อมูล : https://th.wikipedia.org
ที่มาภาพ : https://th.wikipedia.org / Getty Images / Japan News-Yomiuri