account_circleลุ้นหนักมาก! 5 ภาพยนตร์เกี่ยวกับรถไฟ ดูสนุก รถไฟฟ้า..มาหานะเธอ, Train to Busan, UNSTOPPABLE,Snowpiercer, The Taking of Pelham 123
ชีวิตคนเราผูกพันกับรถไฟมาแต่ไหนแต่ไรแล้ว หลายบทความมีการนำรถไฟและชีวิตจริงๆ ขึ้นมาเปรียบเปรย มีสถานีต่างๆ, มีการเปลี่ยนแปลงเส้นทางกระทั่งอุบัติเหตุ ซึ่งภาพยนตร์หลายๆ เรื่องก็มีเรื่องราวเกี่ยวกับรถไฟ และวันนี้ แพรวดอทคอม จึงขอรวบรวม ภาพยนตร์เกี่ยวกับรถไฟทื่สนุกๆ มาฝากผู้อ่านกันถึง 5 เรื่อง แต่! จะมีเรื่องอะไรบ้างนั้นก็ต้องติดตามชมในสกู๊ปนี้กันเลยค่ะ
เริ่มกันที่เรื่อง “BTS Bangkok Traffic (Love) Story” หรือ “รถไฟฟ้า..มาหานะเธอ” ภาพยนตร์แนวโรแมนติก-คอมเมดี้ ที่นำเสนอมุมมองของ “เหมยลี่” (รับบทโดย คริส หอวัง) พนักงานบริษัทสาวโสดวัย 30 ปี ที่แอบชอบ “ลุง” (รับบทโดย ธีรเดช วงศ์พัวพันธ์) วิศวกรรถไฟฟ้าของรถไฟฟ้าบีทีเอส โดยภาพยนตร์เรื่องนี้ตีแผ่สภาพจราจรและขนส่งมวลชนในเมืองหลวงออกมาได้อย่างโดนใจผู้ชม ในขณะเดียวกันก็แฝงแง่คิดไว้ได้อย่างกลมกล่อม
เรื่องที่สองเป็นหนังจากเกาหลีใต้เรื่อง “Train to Busan” ภาพยนตร์แนวระทึกขวัญ เนื้อหาของภาพยนตร์ว่าด้วยการแพร่ระบาดของเชื้อโรคประหลาด ที่ทำให้ผู้ติดเชื้อกลายเป็นซอมบี้ โดยสอดแทรกเรื่องราวปัญหาภายในครอบครัวนักธุรกิจที่แยกกันอยู่กับภรรยา และเหตุการณ์แวดล้อมที่สะท้อนสัญชาตญาณดิบของมนุษย์ในภาวะคับขันที่ต้องหนีเอาตัวรอด ซึ่งแม้จะเจอและชนกับฝูงซอมบี้ขนาดไหน รถไฟขบวนนี้ก็พยายามฝ่าอุปสรรคไปให้ถึงปูซาน อย่างไรก็ตามหนังเรื่องนี้ยังเป็นผลงานชิ้นแรกของพระเอกดัง “กง ยู” หลังจากว่างเว้นผลงานละครและภาพยนตร์ไปนานกว่า 3 ปี อีกด้วย
เรื่องที่สามคือ “UNSTOPPABLE” หรือชื่อภาษาไทย “ด่วนวินาศหยุดไม่อยู่” ซึ่งได้รับแรงบันดาลใจมาจากเหตุการณ์จริง เป็นภาพยนตร์ที่กระตุ้นความตื่นเต้นโดยผู้กำกับ โทนี่ สก็อต ผู้เป็นสัญลักษณ์แห่งรากฐานภาพยนตร์แอคชั่นที่เต็มไปด้วยความตื่นเต้น โดยหนังเรื่องนี้เล่าถึงคนขับรถไฟผู้มากไปด้วยประสบการณ์ที่ต้องเจอกับเหตุการร์ใหญ่เขาต้องแข่งกับเวลาเพื่อหยุดยั้งขบวนรถไฟ เปรียบเสมือนขีปนาวุธที่มีขนาดเท่ากับตึกสูงเสียดฟ้า เพื่อปกป้องหายนะขั้นรุนแรงที่จะเกิดขึ้นในบริเวณที่พักอาศัย
เรื่องที่สี่ “Snowpiercer” หรือ “ยึดด่วน วันสิ้นโลก” เป็นเรื่องราวของโลกในยุคอนาคต 18 ปีนับจากนี้ที่จะกลายเป็นยุคน้ำแข็งหลังแก้ไขวิกฤตการณ์โลกร้อนไม่เป็นผลสำเร็จ ส่งผลให้อุณหภูมิลดลงอย่างมากจนน้ำแข็งปกคลุมทั่วโลก มนุษย์แทบไม่เหลือบนโลก มีเพียงขบวนรถไฟสายพิเศษที่วิ่งไปทั่วโลกขบวนนี้เท่านั้นที่เป็นพาหนะบรรทุกความหวังสุดท้ายของมวลมนุษยชาติ มันวิ่งไปด้วยเทคโนโลยีล้ำยุคและไม่เคยหยุด ทว่าบนขบวนรถไฟนี้ ก็มีรูปแบบการแบ่งชนชั้นไม่ต่างไปจากโลกปัจจุบันนัก และชนชั้นที่ต่ำที่สุดก็รวมกันอยู่ที่ท้ายขบวน สภาวะที่อดอยากและสกปรกทำให้หลายคนวางแผนที่จะยึดรถไฟขบวนนี้ นัยว่านี่คือการปฏิวัติเพื่อความเสมอภาค
เรื่องที่ห้า “The Taking of Pelham 123” หรือ “ปล้นนรก รถด่วนขบวน 123” เล่าถึงเหตุการณ์มือปืนบุกยึดรถไฟใต้ดิน และจับผู้โดยสารและคนตรวจตั๋วเป็นตัวประกัน ทำให้ตำรวจราจรแห่งมหานครนิวยอร์ก ต้องการวิธีเอาชนะพวกโจรปล้นรถไฟใต้ดิน ซึ่งมีมิสเตอร์บลู หัวหน้าขบวนการผู้วางแผนทุกอย่างเจาะลึกถึงรายละเอียดเล็กๆ น้อยๆ เขาต้องการเงินค่าไถ่จำนวนมากภายใน 1 ชม. มิฉะนั้นเขาจะเริ่มสังหารตัวประกันทีละคนๆ
