8 สัญญาณรัก (จืดจาง) เปลี่ยนโลกสีชมพูสุดหวานกลายเป็นขม ไร้แพลนชีวิตคู่

8 สัญญาณรักเปลี่ยนรสหวานโลกสีชมพูกลายเป็นรสขม คบคนนี้อนาคตจะมีหรือไม่มีร่วมกันนะ?

กว่าจะเปิดใจต้อนรับใครสักคนให้เข้ามาเป็นคนรู้จัก คนรัก จนกระทั่งจะเปลี่ยนไปเป็นคู่ชีวิตไม่ใช่เรื่องง่ายเลย ยิ่งอายุมากขึ้นก็เป็นเรื่องธรรมดาที่ต้องคัดแล้วคัดอีกว่า คนที่เข้ามาจะสามารถใช้ชีวิตอยู่ร่วมกับเราได้ไหม มีไลฟ์สไตล์ความชอบที่สนับสนุนกันให้ดีขึ้นกว่าเดิมหรือเปล่า โดยเฉพาะถ้าเปิดใจตกลงคบกันแล้ว ก็ต้องมั่นใจแล้วว่าจะคบคนนี้ไปจนถึงสร้างอนาคตและแต่งงานด้วยกัน เพราะไม่มีใครหรอกที่อยากจะมานั่งเสียใจช้ำใจซ้ำแล้วซ้ำอีก จริงไหมล่ะ

แต่ชีวิตรักไม่ว่าคู่ไหนก็ย่อมมีอุปสรรคเป็นเรื่องธรรมดา แรกๆที่คบกันอะไรๆก็ดูหวานแหววกันไปหมด แต่เมื่อถึงคราวที่ต่างคนต่างต้องทำงาน มีภาระหน้าที่ที่ต้องรับผิดชอบมากขึ้น มีเวลาพบกันน้อย ความคิดหรือใจคนก็อาจเปลี่ยนแปลงได้ตลอด วันนี้แพรวเลยนำ 8 สัญญาณรักจืดจางมาให้พิจารณาเป็นข้อๆไป ถ้าพบว่าความรักของตัวเองมีสัญญาณเหล่านี้มาก ก็อาจถึงคราวพิจารณากันต่อไปแล้วละ

Processed with VSCOcam with m5 preset

 1. ตัวตนของคุณไม่ใช่สิ่งที่เขาชอบและยอมรับได้

คนทุกคนย่อมมีนิสัยทั้งด้านดีและไม่ดีปะปนกันเป็นเรื่องธรรมดา ซึ่งคนที่เราคบด้วยก็ควรเป็นคนที่เข้าใจและยอมรับข้อบกพร่องของเราได้ รวมถึงไลฟ์สไตล์หรือกิจกรรมความชอบที่คบกันแล้วต่างสนับสนุนให้ดีขึ้นไปในทางเดียวกัน เพราะถ้าสมมุติเขาไม่ชอบและไม่สามารถยอมรับหน้าที่การงานหรือสไตล์การแต่งตัวของเรา แม้จะคบกันได้ในระยะแรก ก็อาจต้องแยกทางกันเร็วอยู่ดี

2. คุณไม่สามารถยอมรับตัวตนของคนรักได้

การยอมรับซึ่งกันและกันเป็นสิ่งที่ทั้งคู่ควรมี ถ้าคนรักของคุณรักคุณในสิ่งที่คุณเป็นได้ คุณก็ควรจะยอมรับและรักตัวตนของเขาได้เช่นกัน ถามตัวเองดูนะว่า ถ้าคนรักของคุณมีหรือทำสิ่งที่คุณไม่ชอบจนถึงขั้นเกลียด ซึ่งดูแล้วคบกันไร้วี่แววไปได้ไกลแน่ๆ แล้วทำไมคุณจะต้องอยู่กับเขาต่อไปล่ะ

loveraw_033. คุณต้องต่อสู้กับความรู้สึกไม่ดีอยู่ฝ่ายเดียวตลอด

ความรักควรเป็นสิ่งที่ทำให้คนสองคนมีความสุข โลกสดใส ได้ยิ้ม ได้หัวเราะ แชร์ปัญหาแบ่งเบากันได้ แทนที่คบกันแล้วต้องเจอแต่เรื่องทุกข์ มานั่งเครียด กลุ้มใจ ซึ่งถ้าคนรักของคุณกำลังเจอสภาวะยากลำบาก เข้าโหมดอารมณ์สีเทา คุณก็ควรเป็นฝ่ายที่จะเข้าไปทำให้เขารู้สึกดีขึ้นมากกว่าจะรู้สึกแย่ไปพร้อมๆกัน กลับกันถ้าเป็นตัวคุณเองที่รู้สึกแย่ เจอปัญหา แต่เขาไม่สนใจความรู้สึกคุณเลย อันนี้ก็ต้องพิจารณาแล้วละ นี่ขนาดยังไม่ได้แต่งงานกันเลยนะเนี่ย

สัญญาณรัก4. รักกันต้องร่วมทุกข์ร่วมสุขด้วยกัน

หน้าที่การงานที่ต้องรับผิดชอบอาจจะทำให้คนสองคนอยู่ด้วยกันไม่ได้ตลอด พบกันน้อยลง สิ่งสำคัญเลยคือ การใส่ใจ ทำให้ฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งรู้ว่ายังมีอีกคนเป็นกำลังใจและรอช่วยเหลืออยู่ ซึ่งแน่นอนว่าเวลาเราเจอปัญหาชีวิตเข้ามาก็ต้องการคนรักมาคอยเชียร์อัพ ให้คำแนะนำอยู่แล้ว แต่ถ้ารักครั้งนี้อะไรๆก็ดูท่าคุณต้องเผชิญหน้ารับปัญหาอยู่ฝ่ายเดียว ไม่มีแม้แต่เสียงโทรศัพท์คอยโทร.มาถามไถ่ ก็อาจเป็นสัญญาณว่าคนนี้อาจไม่ใช่คนที่เราจะสร้างอนาคตร่วมกันด้วยก็เป็นได้

loveraw_015. จุดหมายปลายทางไม่ได้ลงเรือลำเดียวกัน 

พอคบกันไปได้จนถึงจุดหนึ่ง คุณอาจจะพร้อมแล้วสำหรับการแต่งงานเพื่อสร้างครอบครัว แต่คนรักของคุณกลับต้องการเดินทางท่องเที่ยวคนเดียวสัก 2-3 ปี ปัญหาก็อาจส่อแววมาแล้ว ถ้าคุณรู้สึกจริงจังก็ควรหันหน้าจับเข่าคุยกับคนรัก พูดถึงแผนชีวิตในอนาคตร่วมกัน และถ้าพบว่าความสนใจหรือทิศทางในการดำเนินชีวิตต่างจุดหมาย ลงเรือลำเดียวกันไม่ได้ นี่ก็อาจถึงเวลาที่คุณต้องแยก เซย์กู๊ดบายกันแล้วละ

6. ดูเหมือนคุณจะใส่ใจในความสัมพันธ์อยู่ฝ่ายเดียว

ปัญหานี้พบบ่อยในความสัมพันธ์แต่ละคู่ เรารู้สึกรักเขามาก ดูแลเขามาก แต่เขาดูเหมือนรักและใส่่ใจเราน้อยจัง ซึ่งเป็นความหวังของความสัมพันธ์ที่จะให้และรับความรักไม่สมดุลกัน เพราะถ้าคนใดคนหนึ่งรู้สึกว่าตัวเองต้องคอยเป็นฝ่ายพยายามประคองความรักให้คบกันไปได้นานๆอยู่ฝ่ายเดียว ก็อาจเป็นสัญญาณที่ไม่ดีซะแล้ว ทางที่ดีควรหันหน้าเปิดใจคุยกัน แต่ถ้าปรับแล้วจูนเข้าหากันยังไม่ได้ ก็อาจต้องไปหาคนที่เหมาะกับเราใหม่

loveraw_067. เชื่อใจกันและกันกลายเป็นเรื่องยากสุดๆ 

ความเชื่อใจกันและกันเป็นสิ่งสำคัญที่จะช่วยให้ความสัมพันธ์เดินหน้าไปได้ไกล เพราะถ้าต่างฝ่ายต่างหมดความเชื่อใจ อย่างกรณีสมัครเฟซบุ๊กใหม่เพื่อทักไปลองใจแฟนตัวเอง ถ้าแฟนซื่อสัตย์กับคุณแล้วรู้เข้าทีหลัง ก็อาจจะไม่เป็นผลดีสักเท่าไหร่ และถ้าคุณพบว่าตัวเองต้องคอยตามเช็กโทรศัพท์เขาอยู่เรื่อยๆ นั่นก็เป็นสัญญาณที่บอกแล้วว่าการแยกกันหรือการถอยความสัมพันธ์ออกมาน่าจะเป็นวิธีที่ดีที่สุดสำหรับคนทั้งคู่

สัญญาณรัก8. มองไม่เห็นอนาคตเลยว่ารักครั้งนี้จะไปกันได้นาน 

ความสัมพันธ์บางทีก็ต้องใช้ความพยายามและเวลาพิสูจน์อย่างมาก สิ่งสำคัญเลยคือ ความมั่นใจของคนทั้งสองที่จะรักกันจนไปถึงขั้นแต่งงานร่วมกัน เพราะถ้าคบกันแล้วดูไร้วี่แววการพูดถึงอนาคต ฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งใช้ชีวิตเรื่อยเปื่อยจนมองไม่ออกว่าภาพอนาคตร่วมกันจะเป็นอย่างไร ก็ถึงเวลาคิดทบทวนแล้วละว่า จะคบกันต่อไปจริงๆหรือเปล่า

 

เรื่อง : Gingyawee_แพรวดอทคอม
ข้อมูล : http://www.lifehack.org/324797/8-signs-that-your-current-relationship-has-future
ภาพ : www.pexels.com

Praew Recommend

keyboard_arrow_up