ทำน้อยได้มาก! เมื่อลอง ‘หยินโยคะ’ท่าง่ายปลดล็อคความปวดเมื่อย เหยียดยืดกันถึงเนื้อเยื้อ! (ตอนที่1)

โรคยอดฮิตที่ควรต้องฝึกหยินโยคะ

นั่งคุยกับครูอ้อมได้ความรู้เพียบ โดยเฉพาะเรื่องศาสตร์แพทย์แผนจีน และเพิ่งจะมาเข้าใจความหมายของหยินอย่างแท้จริงก็วันนี้เอง เรื่องที่ว่าหยินเป็นฝั่งสีดำทุกคนรู้ดี ซึ่งหมายถึงฝั่งเย็น การจมดิ่ง ความมืด ลึกลับ ถ้ามองในแง่ของพลังงานทางแพทย์แผนจีนคือ พลังงานที่ดึงลงด้านล่าง ดังนั้นโรคภัยต่างๆ ที่เกิดขึ้นล้วนเกิดจากการที่พลังงานดึงไม่ลงเช่น ปกติพลังงานในร่างกายจะหมุนขึ้น เป็นพลังงานสำหรับใช้ชีวิตในหนึ่งวัน แต่พอหมดวันปุ๊บปรากฏว่าเราดึงพลังงานกลับลงมาไม่ได้ จึงเกิดการตกค้าง เช่น คนที่เป็นโรคกระเพาะ หรือกรดไหลย้อน เกิดจากการที่กรดไม่อยู่ในกระเพาะ แต่ดันขึ้นมาที่หลอดอาหาร และคอหอย รู้สึกแสบร้อนที่หน้าอก เพราะพลังงานที่ดันขึ้นไปไม่ยอมลง

หรือคนที่ท้องผูก เกิดจากการไม่มีความสามารถขับของเสียออกมาได้ เพราะพลังงานทางลงของเราไม่แข็งแรงพอ คนที่ฝึกหยินแล้วมาฝึกพัฒนาการดึงพลังงานลง อาการท้องผูกก็จะหายไป รวมถึงคนที่ประจำเดือนมาไม่ปกติ คนที่มีปัญหานอนไม่หลับ ปวดคอ บ่า ไหล่ ซึ่งเกิดจากพลังงานขึ้นไปคลั่งอยู่ตามจุดต่างๆ หลังจากที่ฝึกหยินจะช่วยทำให้เรารู้จักดึงพลังงานผ่านลงไปสู่ฝ่าเท้าได้ แต่ต้องใช้เวลาฝึกฝนนานพอควรเลยทีเดียว ครูอ้อมยังฝากบอกอีกว่าผู้หญิงที่อายุเกิน 35 ปีขึ้นไปฝึกหยินอาทิตย์ละครั้งได้จะดีที่สุดเพราะในศาสตร์ของแพทย์แผนจีน ถือเป็นช่วงขาลง เราควรเมนเทนยืดช่วงเวลาที่มีประจำเดือนให้ได้นานที่สุด

รู้ทฤษฏีแน่นปึกแล้ว ครั้งหน้าจะเอาท่าฝึกแก้โรคมาฝากกัน ขอบอกเลยว่าง๊าย…ง่าย
เรื่อง : apin_praewnista

ภาพ : โยธา