Louis Vuitton’s New Packaging การเปลี่ยนโฉมที่มีที่มา

Louis Vuitton แบรนด์แฟชั่นลักชัวรีที่ผู้คนทั่วโลกมีภาพจำฝังแน่นต่อลายโมโนแกรมอันแสนคลาสสิค แต่นอกจากลวดลายที่เป็นเอกลักษณ์แล้ว แพ็กเกจจิ้งอันประกอบด้วยกล่องและถุงกระดาษสีน้ำตาลช็อกโกแลตก็เป็นอีกหนึ่งสิ่งที่คนคุ้นชินกันทั่วโลก

ฉะนั้นการที่หลุยส์ วิตตอง ออกมาประกาศว่าจะเปลี่ยนโฉมแพ็กเกจจิ้งใหม่ โดยมีกำหนดให้ใช้พร้อมกันทั่วโลกในเดือนธันวาคม 2016 นี้ จึงนับเป็นข่าวที่สร้างกระแสอื้ออึงในแวดวงแฟชั่นและสาวกผู้มีความจงรักภักดีต่อแบรนด์มากพอดู เพราะสีน้ำตาลช็อกโกแลตก็ดูคลาสสิคดีอยู่แล้ว ที่สำคัญคือผู้คนจดจำสีนี้แบบกล้าท้าเลยว่าให้เดินถือมาในระยะ 100 เมตร ก็ต้องเก็ตว่านั่นถุงหลุยส์ วิตตอง แล้วไฉนจู่ๆ แบรนด์จึงลุกขึ้นมาปรับเปลี่ยนภาพจำดีๆ นี้ซะละ

ใดๆ ล้วนมีที่มา การที่แบรนด์ระดับโลกอย่างหลุยส์ วิตตอง ออกมาประกาศว่าจะเปลี่ยนก็ต้องมีสาเหตุ ซึ่งไม่ใช่สาเหตุลึกลับหรือมีดราม่าในกอไผ่แต่อย่างใด  อย่างที่หลายคนคงเห็นผ่านตาไปแล้วว่าแพ็กเกจจิ้งรูปแบบใหม่ของหลุยส์ วิตตองมาในเฉดสีเหลืองแซฟฟรอนสว่างสดใส ซึ่งเป็นสีพิเศษเฉพาะที่ถูกตั้งชื่อซะเพราะพริ้งว่า อิมพีเรียล แซฟฟรอน (Imperial Saffron) ผูกรัดด้วยริบบิ้นสีน้ำเงิน

การเลือกแมทช์สีเช่นนี้เขามีที่มานะจ๊ะ ไม่ใช่ทำสุ่มๆ ท้าให้สืบค้นย้อนไปที่ประวัติศาสตร์แบรนด์กันเลยทีเดียว กล่าวคือสีอิมพีเรียล แซฟฟรอน แท้จริงแล้วเป็นหนึ่งในเฉดสีที่เป็นเอกลักษณ์ของหลุยส์ วิตตอง มาตั้งแต่ปีค.ศ. 1924 โดยห้วงเวลานั้นบริษัทรถยนต์สัญชาติฝรั่งเศสเจ้าหนึ่งได้สั่งทำหีบสำหรับทริปเดินทางไปประเทศแอฟริกา หลุยส์ วิตตองจึงได้รังสรรค์หีบเดินทางรุ่นซีโตรเอิง (Citroën) ขึ้นมา มีรูปร่างหน้าตาเช่นนี้

นอกจากนี้ สีอิมพีเรียล แซฟฟรอนนี้ ยังเป็นสีหลักบนโปสเตอร์ทางการของนิทรรศการของหลุยส์ วิตตอง “โวเลซ์ โวเกซ์ โวยาเชซ์” (Volez, Voguez, Voyagez) ที่จัดขึ้นที่กร็องด์ ปาเลส์ (Grand Palais) ในกรุงปารีสเมื่อปีค.ศ. 2015 อีกด้วย

กล่าวได้ว่าสีทั้งสองนี้เมื่อนำมาใช้ร่วมกัน นอกจากให้ลุคความใหม่ที่ทันสมัยแล้ว ยังเป็นลุคที่ใช้ได้ตลอดกาล ที่สำคัญคือช่วยย้อนรำลึกไปถึงยุคทองแห่งการเดินทางได้ดีอีกต่างหาก

ขณะที่ดีเทลปลีกย่อยอื่นๆ ทางแบรนด์ก็ไม่ได้ละเลย  ไม่ว่าจะเป็นกล่องแบบพับแบนได้ กระดาษที่ใช้ผลิตถุงที่หนาขึ้น เมื่อรวมกับหูหิ้วริบบิ้นคอตตอนที่ช่วยให้เกิดความยืดหยุ่นสะดวกมากขึ้นในการหอบหิ้ว หรือถ้าจะพับสอดเข้าไปเก็บในสูทเคสหรือกระเป๋าเดินทางก็ทำได้อย่างง่ายดาย ซึ่งทั้งหมดนี้สะท้อนถึงความใส่ใจในเรื่องความยั่งยืนของแบรนด์หลุยส์ วิตตองอย่างแท้จริง

กล่าวมาขนาดนี้ น่าจะพอทำให้คุณๆ อยากครอบครองแพ็กเกจจิ้งใหม่ของหลุยส์ วิตตอง ที่ผลิตเป็นล็อตแรกกันบ้างใช่ไหม ถ้าใช่ก็ปักหมุดเลย ธันวาคมนี้เจอกันแน่