account_circle
Q : หลายคนมีทัศนคติที่ไม่ดีต่
“ปัจจุบันคนหันมาทำศัลยกรรมเยอะขึ้นเรื่อยๆ ขณะเดียวกันตลาดศัลยกรรมเป็นตลาดที่รายได้เข้ามาสูง จะเห็นจากการรีเสิร์ชต่างๆ มากมาย เมื่อหลายปีที่แล้วธุรกิจสปาจะมาแรงมาก เป็นธุรกิจอันดับต้นๆ ใครๆ ก็ชอบทำสปา แต่ยุคนั้นดร็อปไปแล้ว จะเห็นได้ว่าทุกรีเสิร์ชในปัจจุบันมุ่งไปที่ธุรกิจความงาม ซึ่งกำลังเป็นที่นิยมจากความเปิดกว้างมากขึ้น เราก็เลยจะเห็นได้ว่าคลินิกศัลยกรรมเสริมความงามผุดขึ้นเป็นดอกเห็ด หรือแม้กระทั่งคนที่ไม่ชำนาญการหันมาจับธุรกิจประเภทนี้ก็จ้างแพทย์ที่ไปอบรมสั้นๆ แล้วมาทำ เพราะงั้นคลินิกศัลยกรรมจึงมีล้นตลาด ใช้การแข่งขันด้านราคาเข้ามาสู้เต็มไปหมด บางคนเผลอไปทำกับแพทย์ที่ไม่ชำนาญการจนเกิดปัญหาตามมา เพราะไม่ศึกษาเกี่ยวกับแพทย์และสถาบันความงามให้ถี่ถ้วนก่อน จึงเกิดเป็นภาพลบอย่างทุกวันนี้”
Q : สถาบันเสริมความงามที่เยอะขนาดนี้มีส่
“มีแน่นอนครับ เนื่องจากเป็นธุรกิจที่มีรายได้มหาศาลทั่วโลก แม้กระทั่งที่เกาหลีก็พยายามมาแย่งเจาะตลาดบ้านเรา โดยผ่านเอเจนซี่ ดึงคนไทยไปทำที่เกาหลีกันเยอะแยะ ไม่เหมือนเมื่อก่อนที่มีคนมาทำกับผมแล้วพอใจก็ไปบอกต่อเพื่อนๆ ให้มาทำกับผม แต่เดี๋ยวนี้ทันทีที่มีคนหันมาจับธุรกิจด้านความงามเยอะขึ้น ทุกที่ก็ต้องพยายามหาลูกค้าเข้าไปทำโดยการโปรโมต โฆษณาด้วยวิธีการต่างๆ นานา จึงหมดยุคการบอกต่อแล้ว อย่างเช่น เปิดเฟซบุ๊กเลื่อนไปสักพักก็จะมีโปรโมชั่นจากคลินิกนั้นนี้โผล่มาเป็นตัวเลือกเพียบ ทำภาพชวนเชื่อเทียบ Before – After เรียกลูกค้าสุดฤทธิ์ ชักจูงแบบหนักมาก ซึ่งบางครั้งก็ดูเกินจริง แต่สาธารณสุขบ้านเราก็อาจจะไม่ได้เข้าถึงข้อมูลเหล่านี้ จึงเคลียร์ได้ไม่หมดจากสังคม เพราะเหตุชวนเชื่อนี้ทำให้คนตัดสินใจไปทำศัลยกรรมได้ง่ายขึ้น แต่ในส่วนของผมส่วนใหญ่ยังคงเป็นลักษณะลูกค้าที่ทำแล้วดีจึงบอกต่ออยู่”
Q : หมอสองคิดว่าจุดไหนเป็นส่วนที่ทำให้เกิดการบอกต่อขยายลูกค้าของเรา
“มั่นใจมากครับ ผมเป็นคนทำศัลยกรรมมือเบา จึงทำให้เกิดผลข้างเคียงน้อย ช้ำน้อย บวมน้อย หายเร็ว ที่สำคัญลูกค้าชอบที่ผมทำออกมาเป็นธรรมชาติ ซึ่งจะพยายามทำให้ได้ตามสไตล์ที่ลูกค้าต้องการตามพื้นฐานเดิมของเขาด้วยนะ ไม่ใช่ฝืนทำให้ดูเยอะเกินไป ผมจะเน้นทำให้ดูเนียนเป็นธรรมชาติมากกว่าดูเยอะเกินไป
“ซึ่งบางครั้งเรื่องเทรนด์บ้านเรายังติดเสพสื่อจากเกาหลีมากไป อยากได้เหมือนไอดอลพุ่งๆ แต่ถ้าดูดีๆ จะเห็นว่าดาราเกาหลีก็ไม่ได้ต้องหน้าผากโหนกนูน จมูกพุ่ง คางแหลมเว่อร์อะไรขนาดนั้น เท่าที่สังเกตบ้านเขาก็เน้นทำให้ดูออกมาธรรมชาติเหมือนกัน แต่คนไทยอาจจะดันไปจับคอนเซ็ปต์ผิดไป จึงเห็นได้ว่าคนสมัยนี้ทำศัลยกรรมแล้วหน้าดูเฟค ดูเว่อร์เกินจริงชัดไป จนหน้าผากโหนกเหมือนปลาทอง ปลายจมูกแหลมพุ่งๆ กลายเป็นบล็อกหน้าเดียวกันหมด”
Q : คิดยังไงกับการที่คนไทยมองว่
“ผมรู้สึกว่าดูไม่เป็นตัวเอง แต่ก็แล้วแต่ความชอบนะครับ อย่างคนไทยยังมีคนอยากทำหน้าให้เหมือนชมพู่หรืออั้มกันเลย แต่สาวๆ ทุกคนควรจะดูดีในแบบที่เป็นตัวเอง อย่าพยายามไปเหมือนคนอื่นเลยครับ คือถ้าให้ผมทำก็ทำได้นะ แต่ไม่ใช่คอนเซ็ปต์ผม ส่วนตัวผมจะพยายามทำให้ลูกค้าสวยขึ้นแบบไม่เสียตัวตน ปรับให้แมตช์กับหน้าเขาดีกว่าเปลี่ยน”
Q : แต่สาวไทยหลายคนก็ยังให้
“กระทบแน่นอน ที่เกาหลีเขามีหมอศัลยกรรมที่เฉพาะทางและไม่เฉพาะทางเยอะมาก เท่าที่ผมคุยมาเป็น 2 หมื่นคน เพราะฉะนั้นที่เกาหลีก็จะมีทั้งโรงพยาบาลใหญ่ที่มีชื่อเสียง แต่ขณะเดียวกันคลินิกเล็กๆ ตามห้องแถวห้องเล็กๆ น้อยๆ แบบไม่ได้มาตรฐานกระจายเต็มไปหมด บอกเลยว่ากฎของกระทรวงสาธารณสุขของประเทศไทยเข้มกว่าเกาหลีมาก มีหมอเกาหลีพยายามจะมาเปิดสถานพยาบาลที่ประเทศไทย เพราะต้องการขยายตลาดมา แต่ไม่ผ่านกระทรวงสาธารณสุขของประเทศไทยเยอะมาก
“ด้วยความที่ค่านิยมเกาหลีฝังลึกในหัวคนไทยมากไปจึงคิดว่าที่นั่นดี หมอเก่ง ทำได้ทุกอย่าง เราจึงตกเป็นเหยื่อการตลาดบ้านเขา เพราะบ้านเขาโปรโมตหนักหน่วงและเสรีมาก ถ้าเทียบกับบ้านเราที่ไม่สามารถโฆษณาชวนเชื่อได้ ยิ่งเป็นหมอเฉพาะทางด้วยยิ่งยาก ที่สำคัญตอนที่ผมจบศัลยกรรมมาจะมีเทรนอบรมหลักสูตรวิชาการ พร้อมอบรมจริยธรรม คุณธรรม จรรยาบรรณของแพทย์ด้วย ซึ่งเป็นเรื่องที่ดี แม้หมอบ้านเราจะโปรโมตได้ไม่มากนัก แต่ต้องบอกเลยว่าอะไรที่หมอเกาหลีทำได้ หมอไทยก็ทำได้เช่นกัน เพียงแต่โปรโมตมากไม่ได้เท่านั้น จึงไม่ได้แปลว่าคนที่ไปทำที่เกาหลีจะต้องดีเสมอไป”
Q : เคยมีคนไข้มาทำศัลยกรรมแล้วผิดพลาดทางเทคนิคไหม
“ใช้คำว่าผิดพลาดไม่ได้ เรียกว่าไม่เป็นที่พอใจดีกว่า เพราะบางครั้งเนี่ยคนไข้จะมีความคาดหวังที่สูงกว่าความเป็นจริง แล้วบางทีก็สื่อสารกันคลาดเคลื่อน เพราะผมจะเน้นเรื่องการสื่อสารเป็นหลักก่อน ก่อนทำผมจะบอกทุกคนว่าข้อจำกัดคือได้แค่ไหน เพื่อลดปัญหาความไม่พอใจ ถ้าบางทีผมพูดโอเวอร์ไป คุณสวยแน่นอนนู่นนี่ คุณจะได้จมูกที่พุ่ง ตาสองชั้นที่เรียว อะไรที่ดูเว่อร์ๆ ผมจะไม่พูดเด็ดขาด คนไข้ของผมส่วนใหญ่จะน่ารัก พอเราอธิบายสื่อสารปุ๊บเขาจะเข้าใจ”
Q : ส่วนไหนที่สาวไทยทำศั
“จมูกครับ คนเอเชียและคนไทยส่วนใหญ่ติดปัญหามากสุด คือ จมูก เพราะจมูกเป็นจุดศูนย์กลางของใบหน้า ถ้าเราเพิ่มจุดนี้ขึ้นมามันทำให้ใบหน้าเรามีความเปลี่ยนแปลงค่อนข้างเยอะ และเป็นที่นิยมที่สุด ถัดมาก็จะเป็นการผ่าตัดเล็กๆ บนหน้า เช่น ทำตา ทำคาง ทำปากบางเป็นรูปกระจับ แล้วก็อย่างพวกโบท็อกซ์ ฉีดลดกราม และที่นิยมถัดมาก็คือ หน้าอก มาแรงมาก ทำแล้วเสริมความมั่นใจขึ้น ใส่เสื้อผ้ามั่นใจขึ้น มีคนไข้จำนวนเยอะเลยที่มาทำหน้าอก เขาก็จะรู้สึกมั่นใจขึ้น แต่ผมก็ค่อนข้างกังวลเหมือนกันว่าปัจจุบันมีสื่อเยอะมากที่สร้างภาพสร้างค่านิยมว่าหน้าอกที่ดีต้องใหญ่ที่สุด ซึ่งบางทีเราก็เห็นในอินเทอร์เน็ตว่าเขาใส่มา 500 ซีซี 800 ซีซี มันโอเวอร์มาก ซึ่งตามหลักการแพทย์จริงๆ หน้าอกไซส์ที่เหมาะที่สุดหมอต้องเป็นคนประเมินว่าหน้าอกคุณเท่าไหร่ ฐานคุณเท่านี้ กว้างเท่านี้ คุณควรจะใส่เท่าไหร่ที่จะฟิตพอดี ไม่ใช่คนไข้เลือกเองว่าจะใส่เท่าไหร่”
Q : หลายคนมีทัศนคติที่ไม่ดีต่
“ผมคงไปเปลี่ยนเขาไม่ได้ ความคิดเห็นของแต่ละคนไม่มีใครผิดใครถูก ในคนที่คิดว่าธรรมชาติดีที่สุด ผมก็เห็นด้วยนะ ก็ใช่ ธรรมชาติดีที่สุด หรือบางคนที่คิดว่าเขาทำดีแล้ว มั่นใจขึ้น มีความสุขขึ้น ผมก็เห็นด้วยอีกเช่นกัน”
Q : เห็นสาวๆ หลายคนพอได้ทำศั
“ทางการแพทย์จริงๆ มีความคิดของคนอยู่แบบหนึ่งที่เรียกว่า Body Dysmorphic Disorder ประมาน 3-5 เปอร์เซ็นต์ของคนทั่วไป ซึ่งคนประเภทนี้จะรู้สึกว่าในตัวเขายังไม่เพอร์เฟ็คท์ ซึ่งพอทำศัลยกรรมแล้วก็ยังรู้สึกไม่พึงพอใจสักที จึงไปศัลยกรรมแก้จุดเดิมอยู่เรื่อยๆ เช่น ทำจมูกแล้วยังไม่พอใจ แก้ใหม่ทรงอื่นเรื่อยๆ อันนี้เราจะไม่พูดถึงคนทั่วไปที่ทำแล้วรู้สึกแฮ็ปปี้แล้วทำอย่างอื่นต่อ อันนี้คือคนปกติ ไม่ใช่คนเสพติดศัลยกรรมนะ คนพวกนี้เขาจะแบบว่าพอเขาทำปุ๊บ เช่น ทำจมูกเสร็จแล้วอยากทำคางต่อ อยากทำตาต่อ ไม่ใช่คนเสพติดศัลยกรรม เพราะเขาไม่ได้มาทำแบบเดิมซ้ำๆ แต่เปลี่ยนไปทำปรับจุดอื่นๆ ให้ดีขึ้น”
Q : เคยเห็นบางเคสทำศัลยกรรมเสร็จ สวยดีแล้ว แต่พอไปทำซ้ำอีกกลับดูแย่ลง
“ก็มีครับ บางครั้งคนไข้ทำมาจากหมอที่อื่น แต่มาแก้กับผม ผมก็จะบอกว่าอย่างนี้สวยแล้ว อย่าทำเพิ่มหรือแก้ใหม่เลย หมอเขาทำมาดีแล้ว ผมจะห้าม เพราะผมรู้ว่าถ้าผมทำแล้วไม่ได้ประโยชน์กับคนไข้ อาจจะเปลี่ยนนิดๆ ไม่ได้ดีขึ้นมาก ก็ควรหยุดแค่นี้พอ เพราะถ้าฝืนทำไปอาจจะแย่ลง หรือยังไม่พอใจอยู่ดี”
Q : อยากฝากอะไรถึงคนที่ทำศั
“ปัจจุบันเราต้องยอมรับแล้วว่าอยู่ในยุคที่ศัลยกรรมเฟื่องฟูเยอะมาก และขณะเดียวกันมันก็จะมีศัลยกรรมให้เราเลือกเยอะมากในตลาด เยอะจนบางทีผมก็ไม่เข้าใจว่าเขาทำได้ยังไงในราคาที่ถูกๆ เขาใช้วัสดุอะไรทำถึงทำราคาแบบนี้ได้ ซึ่งมันถูกมากจนล่อใจให้คนอยากทำ แม้แต่ภาพ Before และ After ที่เห็นแพร่หลายตามออนไลน์เนี่ย ผมก็ยังไม่แน่ใจว่าถูกกฏหมายจริงหรือเปล่า
“เพราะฉะนั้นก่อนไปทำอย่าเพิ่งไปหลงเชื่อสิ่งเหล่านี้เยอะ หรือแม้กระทั่งเรื่องของเอเจนซี่ต่างๆ เนี่ย ให้เราทำใจไว้เลยว่าเอเจนซี่เขาอยู่ตรงกลาง เขามีผลประโยชน์ตรงนี้ เขาสามารถที่จะพูดอะไรก็ได้ให้ไปทำกับหมอคนนี้ๆ ที่เขาต้องการแล้วเขาจะได้ส่วนแบ่ง เพราะฉะนั้นเราอย่าไปเชื่อทั้งหมด ให้ศึกษาให้ดีก่อน และที่สำคัญให้ศึกษาด้วยว่าคนคนนั้น เป็นหมอเฉพาะทางจริงไหม จบหลักสูตรด้านศัลยกรรมตกแต่งจริงหรือป่าว เพราะก็ต้องบอกว่าตอนนี้เป็นปัญหาหนึ่งของระบบสาธารณสุขเหมือนกัน หมอจบใหม่อยากมาทำศัลยกรรมกันเยอะขึ้น เพราะรายได้ดี จึงอาศัยวิธีการเลี่ยงการไปอบรมหลักสูตรสั้นๆ ที่เกาหลีเวลาที่นู่นเปิดคอร์สอบรม เทรนแล้วก็กลับมาทำเป็นอาชีพเลย ความรู้พื้นฐานก็คนละเรื่องกับแพทย์เฉพาะทางจริงๆ อันนี้ต้องระวังให้ดี”
ก่อนตัดสินใจทำศัลยกรรม
การทำศัลยกรรมต้องทำโดยศัลยแพทย์เฉพาะทางผู้เชี่ยวชาญเท่านั้น ควรศึกษา เลือกสถานที่และห้องปฏิบัติการที่ปลอดเชื้อมาตรฐานสากลก่อนการตัดสินใจ เช็กรายชื่อศัลยแพทย์ที่ผ่านการรับรองจากแพทยสภาและได้รับ Board of Surgery ได้ที่ http://www.plasticsurgery.or.th/
เรื่อง : PP_แพรวดอทคอม
ภาพ : Wara Suttiwan
สถานที่ :Nopparat Cosmetic Clinic